รวบโจรใจถึง ปล้นบ้าน ผกก.สืบภาค 5

พลเมืองดีชี้เบาะแส พาตำรวจตามรวบหัวขโมย หลังคิดกระตุกหนวดเสือ ปีนเข้าบ้าน ผกก.สืบภาค 5 ได้ทรัพย์สินไปเกือบ 1 แสนบาท จนมุมไม่ถึง 24 ชั่วโมง

วันที่ 4 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุม นายนพดล (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย หลังไปกระตุกหนวดเสือ ปีนรั้วเข้าขโมยเงินบ้านผู้กำกับสืบภาค 5 ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมน้ำแข็ง-น้ำดื่มสากล เลขที่ 8/3 หมู่ 11 ถ.เชียงราย-เวียงชัย ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย สุดท้ายไม่รอด ถูกพลเมืองดีชี้เบาะแส ตำรวจจึงติดตามพยานหลักฐาน จนตามรวบตัวคนร้ายได้ หลังก่อเหตุไม่ถึง 24 ชั่วโมง

นายโชคชัย จันทร์กระจ่าง อายุ 36 ปี เจ้าของร้านกล้องติดรถยนต์เชียงรายศรีทรายมูล เผยว่า วันเกิดเหตุคือช่วงคืนวันที่ 1 ต่อเนื่องมาวันที่ 2 ม.ค. 66 ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่ด้านหน้าร้านเบเกอรี่ ห่างจากร้านกล้องรถยนต์ของตนไปประมาณ 2 ห้อง โดยทำทีมาด้อมๆมองๆดูลาดเลาประมาณ 30-40 นาที ตอนนั้นตนกำลังนอนหลับอยู่ แต่แอพกล้องวงจรปิดสั่นเตือน เพราะมีการจับการเคลื่อนไหวของคนที่อยู่หน้าร้านได้ ตนจึงเปิดแอพกล้องดู ก็พบชายต้องสงสัย จึงพยายามแพนกล้องติดตามดูพฤติกรรม และเห็นคนร้ายพยายามจะปีนรั้วโรงงานน้ำดื่ม จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และเห็นว่าชายดังกล่าวได้เดินไปปีนกำแพงรั้ว และปีนเข้าไปที่ภายในห้องบัญชี หลังเจ้าที่ตำรวจมาถึงก็ได้ดักรอตรงบริเวณที่คนร้ายปีนขึ้นรั้วไป แต่จังหวะคนร้ายปีนกลับมา ได้เห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนีไปอีกทาง โดยทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ไว้ และมารู้ตอนหลังว่าคนร้ายได้ไปรื้อค้นโต๊ะทำงาน ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 7-8 หมื่นบาท

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายได้เข้าไปลักทรัพย์ภายในบริษัท น้ำแข็ง-น้ำดื่มสากลฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบคนร้ายกำลังปีนกลับออกมาจากออฟฟิศโรงงานน้ำดื่ม แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดักรออยู่ คนร้ายเกิดไหวตัวทันและวิ่งหลบหนีไปอีกทาง โดยทิ้งรถจักรยานยนต์, หมวกกันน็อค และรองเท้าแตะไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามเจ้าของรถ จนไปพบกับน้องสาวของนายนพดล ส่างจ่อ โดยได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตั้งแต่นายนพดล ออกจากเรือนจำมาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่เมื่อห้วงที่ผ่านมาได้มาเอารถจักรยานยนต์ที่ฝากไว้ไป โดยอ้างว่าจะเข้าไปหางานทำในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย

จากการสืบสวนต่อทราบว่านายนพดล ส่างจ่อ ได้มาพักอาศัยอยู่ที่หอพักไม่มีชื่อ เลขที่ 321/1 ม.19 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ โดยผู้ดูแลหอพักได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบห้องพัก นายนพดล พยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์มาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 65 แต่หลังออกจากเรือนจำได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก 7 ครั้ง ครั้งที่ 1 ได้เงินสดประมาณ 59,000 บาท และบัตรเติมเงิน 350 ใบ ราคารวมประมาณ 25,000 บาท ครั้งที่ 2 ได้เงินเหรียญประมาณ 9,000 บาท ครั้งที่ 3 เงินสดประมาณ 180 บาท ครั้งที่ 4 ได้เงินสดประมาณ 5,000 บาท ครั้งที่ 5 ได้เงินสดประมาณ 100,000 บาท และนาฬิกาข้อมือผู้หญิง 1 เรือน ครั้งที่ 6 เงินสดประมาณ 600 บาท และครั้งสุดท้าย เป็นโรงงานน้ำดื่มกลางเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นของ ผกก.สืบสวน ภาค 5 ได้เงินสดไปจำนวน 95,800 บาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น