กรมอนามัย ใช้หลักหนี-ซ่อน-สู้ ป้องกันเหตุฉุกเฉิน

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการเป็นประธานการซ้อมแผนเผชิญเหตุเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ว่า จากเหตุการณ์อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ดังนั้น ครู พี่เลี้ยงเด็ก เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการเตรียมความพร้อมแผนฉุกเฉิน เพื่อป้องกันอันตราย เพราะเด็กปฐมวัยเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพให้เด็กปฐมวัยมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมวัยของประเทศ ยังให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยอันตรายและเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นต่อเด็ก การฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ในครั้งนี้ จึงเป็นการเตรียมความพร้อมสร้างเกราะป้องกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ลดความเสียหายหรือผลกระทบที่ร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้น 


          นายแพทย์เกษม เวชสุทธานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง กรมอนามัย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สถานอนามัยเด็กกลาง สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง พื้นที่ตั้งจังหวัดนนทบุรี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการสร้างความปลอดภัยของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย การเคลื่อนย้ายเด็ก ตามแผนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต โดยเฉพาะ เด็กเล็ก ครู พี่เลี้ยงเด็ก และบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงทรัพย์สินของทางราชการ


          “สำหรับการซักซ้อมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ให้ผู้ดูแลเด็ก เจ้าหน้าที่ และเด็กปฐมวัย มีความรู้เบื้องต้นในการปฏิบัติตนเพื่อเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ ตาม 3 หลักใหญ่ ๆ คือ หนี ซ่อน สู้  2) เตรียมความพร้อมและทักษะการช่วยเหลือเด็กของครูพี่เลี้ยง และเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ ไว้รองรับสถานการณ์เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และ 3) เสริมสร้างประสบการณ์ การเรียนรู้ให้แก่เด็กปฐมวัย” นายแพทย์เกษม กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น