แฉแรงงานต่างด้าวถูกเก็บหัวคิวแลกบัตรสีชมพูในศูนย์ขึ้นทะเบียนของกรมการปกครอง ปลัดจอมแฉเผยนายหน้าเดือดร้อนหนักร้องเรียนให้ตรวจสอบหลังเสียเงินวันละหลายหมื่น พบบริษัทนายหน้าส่งคนมานั่งทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทำหน้าที่แจกคิว-แจกบัตรพร้อมเก็บเงินหัวละ 400 จากค่าธรรมเนียมปกติ 80 บาท เตรียมยื่นผู้ว่าตรวจสอบ
วันที่ 16 ม.ค.66 นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับมอบอำนาจในการปฏิบัติราชการแทนในการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว เดินทางไปที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 กรมการปกครอง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังจากได้รับการร้องเรียนจากโบรกเกอร์หรือนายหน้าที่นำแรงงานต่างด้าวมาทำบัตรประจำตัว ( บัตรสีชมพู ) ว่าถูกกลุ่มเรียกเก็บหัวคิวแลกรับบัตรประจำตัวหัวละ 400 บาท จากปกติที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียนรายละ 80 บาท ทำให้ต้องเสียเงินวันละหลายหมื่นบาท
ผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลว่า ปกติในการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวจะเสียค่าธรรมเนียมทำบัตรคนละ 80 บาทและมีการออกใบเสร็จรับเงินให้ แต่ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.66 ที่ผ่านมา หลังจากผ่านกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ จนถึงถ่ายภาพผลิตบัตร ปรากฏว่าบัตรทั้งหมดของนายหน้าทุกคนจะถูกส่งไปให้โต๊ะรับบัตรที่มีกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นคนแจกบัตร ให้โดยต้องจ่ายเงินให้รายละ 400 บาทต่อคน แต่ออกใบเสร็จของทางราชการ 80 บาท หากไม่ยอมจะไม่ได้บัตร อ้างว่าเป็นไปตามนโยบายและคำสั่งมาจากข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่ที่สั่งการผ่านนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มบุคคลนี้
ผู้ร้องเรียนบอกว่า ในแต่ละวันมีแรงงานต่างด้าวที่มาขึ้นทะเบียนไม่ต่ำกว่า 300 คน ในส่วนของตนเองที่เป็นนายหน้าได้พาแรงงานมาขึ้นทะเบียนวันละประมาณร้อยคนและต้องโอนเงินให้กับกลุ่มคนดังกล่าววันต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 9-13 มกราคม วันละหลายหมื่นบาทรวมเป็นเงินกว่า 1.6 แสนบาท โดยไม่มีใบเสร็จใด ๆ ทั้งสิ้น และเชื่อว่าหากรวมกับนายหน้าคนอื่นๆ จะมียอดเงินที่จ่ายให้กับคนกลุ่มนี้นับล้านบาทในเวลาไม่กี่วัน จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานร้องเรียนให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าไม่เป็นธรรมและแรงงานต่างด้าวได้รับผลกระทบจากค่าหัวคิวที่ต้องจ่ายเพิ่มโดยไม่มีเหตุผล
การเข้าตรวจสอบในวันนี้พบว่าจุดที่ 1 ซึ่งเป็นจุดตรวจสอบเอกสาร มีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นคนจากโบรกเกอร์แรงงานจากบริษัทเอกชนมานั่งรวมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและแจกบัตรคิวแทนเจ้าหน้าที่ เมื่อได้บัตรคิวแล้วแรงงานที่มาขึ้นทะเบียนจะไปตรวจเอทีเคและขึ้นทะเบียนพร้อมถ่ายภาพทำบัตร หลังจากได้บัตรแล้วจะถูกส่งไปที่จุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดรับบัตร โดยมีกลุ่มคนจากโบรกเกอร์กลุ่มเดิมเป็นคนแจกบัตรและเก็บเงินตามที่มีการร้องเรียน
ขณะที่ นายบุญญฤทธิ์ได้สอบถามข้อมูลกับโบรกเกอร์รายหนึ่งที่นำแรงงานมาขึ้นทะเบียน ทราบว่ามีกระบวนการดังกล่าวจริง เบื้องต้นจึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับหัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 เพื่อให้รับทราบปัญหาและตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ยุติการดำเนินการทั้งหมดทันทีและขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้แจกบัตรให้กับนายหน้าเท่านั้น
นายบุญฤทธิ์ เปิดเผยว่า กรมการปกครองได้เปิดศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 ที่ อ.ดอยสะเก็ด ในการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว กัมพูชา เมียนมาและเวียดนามตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.65-13 ก.พ.66 โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะนายทะเบียนจังหวัดได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ปลัดอำเภอจากหลายอำเภอเป็นผู้ช่วยนายทะเบียน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเซ็นต์ชื่ออนุมัติบัตร โดยตนเองเป็นหนึ่งในปลัดอำเภอที่ได้รับมอบอำนาจปฏิบัติหน้าที่ทุกวันอังคาร
การเข้าตรวจสอบวันนี้ได้พบว่ามีกลุ่มคนภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐมาเกี่ยวของในขั้นตอนตรวจเอกสาร แจกบัตรคิว และ แจกบัตรประจำตัว สอบถามกลุ่มคนดังกล่าวบอกว่าหัวหน้าสั่งมาแต่ไม่บอกว่าใคร จึงได้ขอให้ยุติการดำเนินการซึ่งหนึ่งในกลุ่มยังบอกว่าจะหยุดในวันอังคารซึ่งเป็นวันที่ตนเองมาเป็นผู้ช่วยนายทะเบียน
สำหรับการขึ้นทะเบียนและออกบัตร โดยหลักจะต้องทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และ เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น โดยเรื่องนี้จะทำหนังสือรายงานต่อนายทะเบียนจังหวัดทราบตามลำดับ และ หากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการหาผลประโยชน์ก็จะต้องดำเนินคดีกับทำทุกคนที่เกี่ยวข้องและจัดระเบียบใหม่ทั้งหมดให้ถูกต้อง โดยเรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจและจะไม่ยอมให้ใครเอาลายเซ็นของตนเองและผู้ช่วยนายทะเบียนคนอื่น ๆ ไปหาผลประโยชน์
ร่วมแสดงความคิดเห็น