“ปลัดจอมแฉ” ส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯเชียงใหม่

ความคืบหน้ากรณีนายหน้าแรงงานต่างด้าวที่จังหวัดเชียงใหม่ร้องเรียนผ่านนายบุญญฤทธิ์ หรือ”ปลัดจอมแฉ”นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ในการปฏิบัติราชการแทนในการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวว่ามีการเรียกเก็บเงินกินเปล่าจากแรงงานต่างด้าวคนละ 300-400 บาท ในระหว่างกระบวนการทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.66 เป็นต้นมา


โดยกลุ่มบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำจุดทำหน้าที่ตรวจเอกสาร,จ่ายบัตรคิว และจ่ายบัตรประจำตัวที่ทำเสร็จแล้ว ทั้งนี้ให้นายหน้าเป็นผู้รวบรวมเงินจ่ายให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งหากไม่ยินยอมก็จะไม่มอบบัตรประจำตัวให้ โดยมีการแอบอ้างว่าเป็นไปตามนโยบายและคำสั่งจากข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่ ที่สั่งการผ่านนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งให้เป็นผู้ดำเนินการ

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2566 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายบุญฤทธิ์ เข้ายื่นหนังสือรายงานข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นถึงนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ โดยนายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางนายหน้าแรงงานต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายได้นำเอกสารหลักฐานโดยเฉพาะใบเสร็จการโอนเงินเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด แล้ว พร้อมทั้งให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อสืบสวนเอาผิดตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุเบื้องต้นจำนวน 3 คน รวมทั้งขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมขบวนการทั้งหมดด้วย ซึ่งตามข้อร้องเรียนระบุว่าในการที่กลุ่มบุคคลภายนอกเรียกเก็บเงินนั้น มีการอ้างว่าดำเนินการตามนโยบายคำสั่งของข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่และนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง พร้อมทั้งมีการนำกลุ่มชายฉกรรจ์มาเฝ้าประจำคล้ายข่มขู่ด้วย ซึ่งทางตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป

สำหรับการยื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อรายงานให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากความผิดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายทะเบียนจังหวัด ในการพิจารณาอนุญาต ให้แรงงานดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวฯ และเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบัตรประจำตัวแรงงานซึ่ง เป็นเอกสารของทางราชการและต้องอยู่ในความครอบครองของเจ้าหน้าที่ โดยต้องมอบบัตรประจำตัวให้กับแรงงานผู้จัดทำบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวโดยเร็ว แต่เพราะเหตุใดจึงได้ถูกกลุ่มบุคคลภายนอกนำไปใช้เรียกรับเงินค่ากินเปล่าภายในสถานที่ราชการ ตั้งแต่วันที่ 9-16ม.ค.66 โดยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ตลอดจนพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตรวจสอบพบว่ามีข้าราชการหรือนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย

ขณะเดียวกันนายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วปรากฏว่าได้มีผู้อ้างตัวว่าเป็นลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งได้ติดต่อเข้าไปพูดคุยเจรจาเชิงข่มขู่กับทางผู้เสียหายเพื่อขอให้ยุติเรื่องราวทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางผู้เสียหายไม่ยินยอม รวมทั้งมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่เตรียมจะเข้าแจ้งความเพิ่มอีก ซึ่งเบื้องต้นมีการนัดหมายจะเข้าพบตัวเองเพื่อร้องเรียนให้ข้อมูลในเร็วๆ นี้ ส่วนการทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 นั้น ล่าสุดพบว่าทางกลุ่มบุคคลภายนอกได้เก็บข้าวของออกไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามกำลังตรวจสอบว่ามีการนำทรัพย์สินของทางราชการไปด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะต้นขั้วใบเสร็จค่าธรรมเนียมและเอกสาร ซึ่งหากมีการนำไปด้วยก็มีความผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย.

ร่วมแสดงความคิดเห็น