อึ้ง! นายทุน-นักการเมืองรุกป่า โค่นต้นไม้กว่า 500 ต้น

ลำปาง เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้ง ไม่เคยพบเจอการบุกรุกแผ้วถางป่าขนาดใหญ่ แบบนี้มากว่า 10 ปี หลังมีนายทุนนักการเมืองท้องถิ่นกลุ่มหนึ่ง แผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติฯ อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมายโค่นต้นไม้ในป่ามากกว่า 500 ต้น ส่วนใหญ่บ้านห้วงห้าม หวังยึดครอบครองที่ดิน ล่าสุดตรวจยึดคืนพื้นทีป่าทั้งหมด พร้อมแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด


วันที่ 14 มีนาคม 2566 พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.สั่งการให้ ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารพันธ์ รอง สส.กก 4 บก.ปทส. หัวชุดสายที่ 1 ลำปาง ประสานงาน นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผู้อำนวยการ ศูนย์ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการ ส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายถนอม โพธิ์วิจิตร หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่เมาะ และหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13(แม่เมาะ) นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) สนธิเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จ.ลำปาง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสบป้าด รวมกำลังกว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบ เรื่องการร้องเรียนไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ตร.บก.ปทส.ว่ามีกลุ่มนายทุนร่วมมือกับนักการเมืองท้องถิ่น เข้าไปจับจองพื้นที่ป่า และนำรถแบ็คโฮจำนวน 2 คัน เข้าไปโค่นล้มต้นไม้ยืนต้นมากกว่า 500 ต้น แล้วทำรั้วล้อมรอบเข้าครอบครองที่ดิน

ส่วนไม้ที่โค่นล้มบางส่วนแปรรูปสร้างกระท่อมที่พัก ขนย้ายออกพื้นที่ บางส่วนที่ขนย้ายไม่ไหวก็ให้รถแบ็คโฮตักเอามากองรวมกัน บางส่วนดันลงช่องเขาลำห้วย ทำให้ผืนป่าเสียหายเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่ป่าท้ายหมู่บ้านทางด้านทิศใต้ บ้านสบป้าด หมู่ 1 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบทันที ซึ่งต้องขับรถผ่านกลางหมู่บ้าน และลัดเลาะลำห้วยไปอีกกว่า 3 กิโลเมตร จนไปถึงจุดที่รับแจ้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบมีการบุกรุกแผ้วถางป่า โค่นต้นไม้ เป็นบริเวณกว้าง ที่น่าตกใจเพราะการโค่นผืนป่าครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจพบเจอมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่นำเครื่องจักรเข้ามาแผ้วถางป่า ส่วนเครื่องจักรคาดว่าทางเจ้าของพื้นที ได้ขนย้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้าย มีต้นไม้ถูกโค่นจำนวนมาก พบกระท่อมสร้างใหม่ 1 หลัง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่องรอยมีผู้อาศัย และหลบหนีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง เพราะยังทิ้งปืนแก๊ปไว้ในกระท่อมเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทันที

ในเรื่องนี้เอง นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กล่าวว่าพื้นป่าแห่งนี้ถูกบุกรุกแผ้วถางใหม่ เพราะตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลัง พบว่าก่อนหน้านี้ยังเป็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ แต่วันนี้กลายเป็นพื้นที่ถูกบุกรุกและถางป่าทั้งหมด ซึ่งหากเป็นชาวบ้านธรรมดา คงไม่สามารถเข้ามาดำเนินการได้ขนาดนี้ ซึ่งต้องเป็นนายทุนเท่านั้นที่สามารถทำได้ เพราะหวังประสงค์ที่จะครอบครองพื้นที่เท่านั้น เพราะไม้ที่โค่นล้มส่วนใหญ่เป็นไม้ห้วงหาม แต่กลับไม่มีการตัดท่อนออกไปหรือแปรรูป แต่ได้เอามากองรวมกันเพื่อที่จะรอเผาทำลาย ซึ่งพฤติกรรมรุกป่าแบบนี้ไม่พบเจอมานานกว่า 10 ปีแล้วจึงต้องดำเนินการจนถึงที่สุด

ด้าน ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารพันธ์ รอง สส.กก 4 บก.ปทส. หัวชุดสายที่ 1 ลำปาง สนธิเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จ.ลำปาง เบื้องต้นตามที่ได้รับการร้องเรียนมานั้น ผู้ร้องระบุแค่เพียงนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่น ที่เข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า แต่ไม่ได้ระบุชื่อบุคคล ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนต่อไป ว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

ด้านนายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการ ส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง กล่าวว่า พื้นที่ถูกบุกรุกแห่งนี้ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฏหมายอย่างชัดเจน ซึ่งจะได้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดและสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาให้ได้ ซึ่งในเบื้องต้นได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดมี 5 แปลง พื้นที่ถูกบุกรุกกว่า 50 ไร่ ส่วนของกลางไม้หวงห้ามพบว่ามีจำนวนมาก จะต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทั่วลำปาง เข้ามาดำเนินการตรวจยึดของกลางทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงจะขนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษา

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 54 ประกอบ 72 ตรี ฐาน “ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”
มาตรา 55 ฐาน”ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น” พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 พ.ร.บ.อาวุธปืน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น