รองโฆษก ตร.เตือน สงกรานต์นี้ต้องระวัง “ภัยออนไลน์หน้าร้อน”

รองโฆษก ตร.เตือน สงกรานต์นี้ต้องระวัง “ภัยออนไลน์หน้าร้อน” ย้ำมิจฉาชีพมาได้ทุกรูปแบบ ขู่!!! รับจ้างเปิด “บัญชีม้า-เบอร์ม้า” ติดคุก 3 ปี ปรับ 3 แสน !!!

วันนี้ (8 เม.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพใช้โอกาสเทศกาลสงกรานต์ออกอุบายหลอกลวงออนไลน์

รองโฆษกฯ เปิดเผยสถิติคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนร้องเรียนผ่านแจ้งความออนไลน์ เว็บไซต์ thaipoliceonline.com ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 22,486 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 1,842 ล้านบาท โดย 5 ลำดับสูงสุด ได้แก่ 1) หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นขบวนการ 2) หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 3) หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานฯ 4) ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) และ 5) หลอกให้กู้เงิน

พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโจรออนไลน์มักจะออกอุบายตามเทศกาลวันสำคัญตามประเพณี ในช่วงฤดูร้อนนี้ จึงขอแจ้งเตือนถึงรูปแบบอาชญากรรมออนไลน์ ที่โจรอาจใช้ในการหลอกลวง ดังนี้

  1. “หลอกขายแอร์ พัดลม เครื่องฟอกอากาศ” หลอกให้โอนเงินก่อนแต่ไม่จัดส่งสินค้า หรือส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง แต่เป็นสินค้าปลอม ไม่ตรงปก คุณภาพต่ำ
  2. “หลอกขายทัวร์ท่องเที่ยวทิพย์” หลอกลวงขายตั๋วทัวร์ในประเทศ/ต่างประเทศ ให้โอนเงินแล้วเงียบหายติดต่อไม่ได้ ไม่ได้เดินทางจริง
  3. “หลอกลดหย่อนค่าไฟ, หลอกแจกตั๋วเครื่องบินฟรี” หลอกให้ดาว์นโหลดแอปฯ ดูดเงิน หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด
  4. “หลอกทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม” หลอกให้โอนเงิน ลงทุน เพื่อทำงานพิเศษ เช่น กดรับออเดอร์ ทำสต๊อกสินค้า หลอกให้ลงทุน แล้วไม่ได้รับเงินคืนทั้งต้นทุนและกำไร
  5. “หลอกกู้เงินออนไลน์ดอกเบี้ยต่ำ” หลอกให้โอนเงินเป็นค่าธรรมเนียม หรืออ้างทดลองโอนเงินเข้าบริษัท เพื่อแสดงว่าสามารถผ่อนชำระได้ และหลอกให้โอนเงินเพิ่มโดยใช้ข้ออ้างต่างๆ เช่น โอนเงินเกินเวลาที่กำหนด หรือทำธุรกรรมผิดพลาด จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทั้งเงินกู้ และเงินที่โอนไป

รองโฆษกฯ ยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 ผลของกฎหมายมีผลให้เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า มีโทษอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนจะตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ ได้สั่งการให้เร่งรัดเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไซเบอร์ (Cyber Vaccine) ให้กับประชาชน โดยสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “เตือนภัยออนไลน์” และสามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com หรือที่สถานีตำรวจได้ทุกแห่งทั่วประเทศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น