ปภ.แนะ 5 จุดบอดสายตาขณะขับรถ…อันตรายที่ควรระวัง จุดบอดสายตา หรือ Blind Area เป็นบริเวณที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นด้วยสายตา เพราะมีสิ่งบดบังทัศนวิสัย ในการมองเห็นรอบรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ) ขอแนะวิธีป้องกัน 5 จุดบอดสายตาขณะขับรถ ดังนี้
- จุดบอดมุมหน้ารถ เกิดจากมุมเสาหน้ารถระหว่างกระจกหน้าและกระจกข้าง ส่งผลให้มองไม่เห็นรถที่ขับขนานด้านข้างรถ
วิธีแก้ไข
– ปรับเบาะนั่งให้เหมาะสมกับรูปร่างของผู้ขับขี่ ไม่สูงหรือต่ำเกินไป จะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางด้านหน้า โดยมีระยะห่างระหว่างศีรษะกับเพดานประมาณ 6 นิ้ว จะช่วยมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น - จุดบอดกระจกมองข้าง เกิดจากการปรับกระจกมองข้างในระดับที่ไม่เหมาะสม ทำให้มองไม่เห็นรถที่ขับมาด้านข้าง
วิธีแก้ไข
– ปรับกระจกมองข้างให้ได้มุมมองที่กว้างที่สุด สามารถมองเห็นตัวรถด้านข้าง พื้นถนน และเส้นแบ่งเลนได้ชัดเจน
– ก่อนเปลี่ยนช่องทางหรือเลี้ยวรถให้หันศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อย จะช่วยให้มองเห็นรถที่อยู่ในจุดบอดสายตา - จุดบอดกระจกมองหลัง ผู้ขับขี่มักจะละเลยในการใช้กระจกมองหลัง โดยมองเส้นทางผ่านกระจกมองข้างเพียงอย่างเดียว หรือวางสิ่งของบริเวณด้านหลังกระจกหลังรถ
วิธีแก้ไข
– ปรับกระจกให้เห็นด้านหลังของรถทั้งหมด โดยใช้กระจกมองหลังและกระจกมองข้างสลับกันเป็นระยะๆ เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางหรือเลี้ยวรถ
– ไม่วางสิ่งของบริเวณกระจกหลังรถ เพราะจะบดบังกระจกมองหลัง ทำให้มองไม่เห็นด้านท้ายรถหรือรถที่วิ่งตามหลังมา - จุดบอดจากรถขนาดใหญ่ การขับรถตามหลังรถขนาดใหญ่ในระยะกระชั้นชิด ทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าและด้านข้าง จึงไม่สามารถประเมินเส้นทาง รวมถึงระยะความเร็วของรถที่ร่วมใช้เส้นทาง
วิธีแก้ไข
– รักษาระยะห่างจากรถขนาดใหญ่ประมาณ 3 – 4 ช่วงคันหรือ 10 เมตร เพื่อให้มีมุมในการมองเห็นเส้นทางได้กว้างขึ้น
– หลีกเลี่ยงการขับรถตีคู่กับรถขนาดใหญ่เป็นเวลานาน เพราะด้านข้างรถขนาดใหญ่เป็นจุดบอดสายตา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรหลีกเลี่ยงในการอยู่ใกล้พื้นที่จุดบอดของรถบรรทุก - จุดบอดจากสภาพถนน เกิดจากลักษณะทางกายภาพของเส้นทาง ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน อาทิ โค้งหักศอก ทางขึ้น ลงเนิน ถนนมีสิ่งก่อสร้างบดบังเส้นทาง
วิธีแก้ไข
– ปฏิบัติตามป้ายเตือนหรือสัญญาณจราจรอย่างเคร่งครัด อาทิ ห้ามแซงในทางโค้ง ให้ใช้เสียงแตรส่งเสียงเตือนเพื่อนร่วมทาง
– ชะลอความเร็วเมื่อขับรถผ่านจุดบอดของถนน พร้อมสังเกตสภาพเส้นทางเมื่อขับผ่านจุดบอดสายตาแล้วค่อยใช้ความเร็วต่ำปกติ
ทั้งนี้ การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด การขับรถอย่างมีสติและการใช้สายตามองเส้นทางให้รอบด้าน จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากจุดบอดสายตาในขณะขับรถ
ร่วมแสดงความคิดเห็น