(มีคลิป) ปิดล้อมทำลายเครือข่ายรายสำคัญ ย่านฝั่งธนบุรี

ป.ป.ส. ผนึกนครบาล กองบัญชาการกองทัพไทย ปิดล้อมทำลายเครือข่ายรายสำคัญ ย่านฝั่งธนบุรี

วันที่ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พลตำรวจตรี มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8

พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ร่วมกันแถลงข่าว การปิดล้อมทำลายเครือข่ายรายสำคัญ ในพื้นที่แพร่ระบาด ย่านฝั่งธนบุรี สืบเนื่องมาจากการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในระดับรายขายส่งใน พื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี

การปิดล้อมและแถลงข่าวในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2565 ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 60,200 เม็ด และไอซ์ 96.19 กรัม จากการบูรณาการสืบสวนระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำให้ขยายผลถึงเครือข่ายการค้าดังกล่าว ลงมาในระดับลูกค้ายาเสพติด ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาด มีจำนวนมากกว่า 100 ราย และมีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มากกว่า 250 บัญชี มีเงินหมุนเวียนมากว่า 40 ล้านบาท

ทาง ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จน ป.ป.ส. สามารถออกหมายจับตัวการ หรือเจ้าของยาเสพติด และลูกค้าซึ่งเป็นนักค้ายาเสพ ติดในระดับแพร่ระบาด จากศาลอาญาธนบุรี ได้จำนวน 39 หมาย ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้อนุมัติแจ้งข้อหา จนนำมาสู่การวางแผนปิดล้อมตรวจค้น

โดยปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ในวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2566 โดยเป็นการบูรณากำลังชุดปฏิบัติการจาก ป.ป.ส. กองบัญชาตำรวจนครบาล บก.น. 8 บก.น.9 และกองบัญชาการกองทัพไทย ปิดล้อม 21 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 11 คน โดยหนึ่งในนั้นคือการจับกุมนายนราธิป นาคทอง พร้อมของกลางยาอี 120 เม็ด คีตามีน 25 กรัม พร้อมเครื่องชั่ง และกล่องหมากฝรั่งติดแม่เหล็กที่ใช้ในการลักลอบส่งยาเสพติด เบื้องต้นยึดทรัพย์สินในเครือข่ายนี้ เป็น บัญชีสมุดเงินฝาก บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ พระเครื่อง ทองรูปพรรณและทรัพย์สินอื่น ๆ จำนวน 141 รายการ มูลค่า 25 ล้านบาท

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การปิดล้อมครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากการจับกุมผู้ต้องหาเพียง 1 ราย และพบข้อมูลความเชื่อมโยงกับผู้ค้ารายย่อยและลูกค้าจำนวนมาก ทำให้สามารถออกหมายจับได้ 39 เป้าหมาย ซึ่งเป็นแนวทางในการปราบปรามยาเสพติดแนวใหม่ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่สามารถขยายผลถึงผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดแม้ว่าผู้นั้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวยาเสพติด เช่น เป็นผู้ดูแลธุรกรรมทางการเงิน โดยในเครือข่ายนี้ พบการใช้บัญชีม้าในการกระทำผิด ซึ่งขอฝากถึงประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชี หรือให้ยืมบัญชี มีโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 129 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า สำนักงาน ป.ป.ส. มุ่งเน้นการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนใน พร้อมดำเนินการตามข้อร้องเรียนของประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 โดยผู้แจ้งเบาะแสไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลผู้แจ้ง ปลอดภัยแน่นอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น