กงสุลใหญ่ เฉิน ไห่ผิง พร้อมเดินหน้าสร้างประชาคมร่วมกัน “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่จัดงานเลี้ยงต้อนรับกงสุลใหญ่ เฉิน ไห่ผิง ในโอกาสมาดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ คนที่ 12 ซึ่งเดินทางมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

กงสุลใหญ่ เฉิน ไห่ผิง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า มีความประทับใจในความเป็นมิตรและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนไทยตั้งแต่เดินทางมาดำรงตำแหน่ง ด้วยเหตุที่ว่า ประชาชนชาวจีนและไทยมีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานเปรียบเสมือนดั่งครอบครัวเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือของไทยและจีนมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และเชื่อมโยงกันทางสายเลือด นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งกงสุลใหญ่จีน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อประสานงานเชิงลึกกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ  พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนมิตรทุกสาขาอาชีพในภาคเหนือของไทย หรือแม้กระทั่งการร่วมฉลองประเพณียี่เป็ง มนต์เสน่ห์เชียงใหม่เมืองดอกไม้งาม การเดินขึ้นดอยสุเทพเพื่อชมวัดพระธาตุดอยสุเทพ ล้วนแล้วแต่ทำให้สัมผัสถึงมิตรภาพที่ดีของพี่น้องชาวเหนือที่มีให้กับประเทศจีน และความมุ่งมั่นปรารถนาที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจีน-ไทย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมีกำลังใจและมั่นใจในการทำงานในอนาคตมากยิ่งขึ้น

ในปี 2566 เศรษฐกิจจีนจะยังคงฟื้นตัวและดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี GDP เกิน 126 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในแนวหน้าของกลุ่มประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ มีสัดส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกมากกว่า 1 ใน 3 ซึ่งยังคงเป็นกลไกหลักที่ใหญ่ที่สุดของโลกในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการผลิตขั้นสูงให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เร่งสร้างการเกิดอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ วัสดุใหม่ พลังงานใหม่ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งจะเป็นพลังใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนต่อไป การประชุมสุดยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีนประสบความสำเร็จอย่างมากการเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูงและความร่วมมือยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง   ท่ามกลางการฟื้นตัวทางของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงซบเซาและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น รูปแบบการพัฒนาใหม่ของจีนมีบทบาทที่แสดงให้เห็นว่าเป็น “เครื่องสร้างเสถียรภาพ” และ “แหล่งพลังงาน” ทั้งยังนำมา

กงสุลใหญ่ เฉิน ไห่ผิง ยังได้กล่าวถึง การเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดี สี  จิ้นผิงเมื่อสองปีที่ผ่านมา และความสำเร็จในการเยือนประเทศจีนของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งผู้นำของทั้งสองประเทศได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทย ร่วมเขียนเรื่องราวอันงดงามในยุคใหม่ ว่าด้วย “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ปัจจุบัน ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันบ่อยครั้ง มีการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด  “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง  ยินดีที่จะศึกษาแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับเพื่อนมิตรจากทุกสาขาอาชีพในภาคเหนือของไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางความร่วมมือที่หลากหลายยิ่งขึ้น และยังได้อวยพรเนื่องในปีมังกรทอง ซึ่งตามปฏิทินจันทรคติของจีน มังกรทอง ผงาดฟ้า สรรพสิ่งต่างๆ เริ่มต้นใหม่ โดยขอให้ทั้งสองประเทศเจริญรุ่งเรือง และขอให้มิตรภาพระหว่างจีน-ไทย ยั่งยืนสถาพรตลอดไป

ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ได้ถูกสถาปนาขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.2534 เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนทั้งชาวไทยและชาวจีนที่เดินทางไปมาหาสู่กันพร้อมทั้งการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และการศึกษา ระหว่างภาคเหนือของประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการทูตของจีนจะยึดมั่นใน 4 หลักการ สำคัญคือ หลักการของความเชื่อมั่นในตนเอง หลักการเปิดกว้างและการไม่แบ่งแยก หลักความยุติธรรมและความเป็นธรรม และหลักความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น