เหตุไฟไหม้และพบศพในกองเพลิงรายนี้เกิดเมื่อเวลา 09.10 น. ขณะที่พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตุ้นบุฯมา สว.สอบสวนสภ.เมืองแพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้าน ที่บ้านปทุม หมู่11ต.เหมืองหม้อ ใกล้วัดปทุมขอให้ช่วยเหลือด้วยหลังรับแจ้ง จึงรายงานให้พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ทราบพร้อมแจ้งไปยังนายพรหมมา คำแปน นายก อบต.เหมืองหม้อ เจ้าของพื้นที่นำรถดับเพลิงไปสกัดไฟไหม้และให้ประสาน เทศบาลและ อบต.ข้างเคียงนำรถดับเพลิงเข้าสนับสนุนและรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านหมู่ 11 ต.เหมืองหม้อ พบว่า พบว่าไฟกำลังลุกไหม้บ้านชั้นบนซึ่งเป็นไม้สัก 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูนหลังใหญ่เก็บอุปกรณ์การเกษตรและอื่น ๆ จำนวนมาก
พร้อมกันนี้นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ ได้มาบัญชาการดับไฟโดยมีรถดับเพลิงจาก เทศบาลและ อบต.จำนวน 15 คัน ใข้เวลาเกือบชั่วโมงเพลิงจึงสงบแต่บ้านได้ถูกไฟไปทั้งหลังและสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านสูญไปกับกองเพลิง
หลังเพลิงสงบลงนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่และ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตุ้ยบุญมา สว.สอบสวนสภ.เมืองแพร่ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เข้าตรวจสอบสันนิษฐานว่าไฟไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรค่าเสียประมาณเกือบล้านบาทและต้องสลดใจเมื่อพบมีผู้เสียชีวิต1 ราย ในกองเพลิงดำเป็นตอตะโก
จากการสอบสวนบ้านที่ถูกไฟไหม้เป็นบ้านของ นายยงยุทธและ นางทองศรี มีนายจันทร์ อายุ 63 ปี น้องชายเป็นผู้วิกลจริต อาศัยอยู่ด้วย ขณะเกิดเหตุ นายยงยุทธ และนางทองศรี ไม่อยู่บ้านไปขายของปล่อยให้นายจันทร์ อยู่บ้านซึ่งนายจันทร์ มักจะออกเที่ยวเดินไปตามที่ต่าง ๆ ในหมู่บ้าน
สำหรับศพที่พบ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศพนายจันทร์แต่เพื่อความแน่ใจ ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรและพิสูจน์อัตลักษณ์ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในขั้นรอผลพิสูจน์หลักฐานอัตลักษณ์
จากนั้นตำรวจได้บันทึกที่เกิดเหตุและสภาพแวดล้อมเป็นหลักฐานตามขั้นตอนยังไม่มีสี่แววว่า นายจันทร์จะกลับมาบ้านชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็เชื่อแน่ว่าน่าจะเป็นนายจันทร์ ไม่ได้ไปตระเวนเที่ยวที่ไหนขณะไฟไหม้อาจจะนอนหลับหรือหนีออกมาไม่ทันจนถูกไฟคลอกตายนั่นเอง
ร่วมแสดงความคิดเห็น