ตรวจสอบนายทุนเช่าพื้นที่ คทช.ให้ชาวบ้านปลูกขิง ข้าวโพด

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่มีการร้องเรียน มีบุคคลภายนอกมาขอเช่าพื้นที่ เขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นลุ่มน้ำระดับ A1 หวั่นมีการบุกรุกแผ้วถางเพิ่มเติม

วันนี้ 19 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง มอบหมายให้ นายวีกิจ เจ้าดูรี ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่สะเรียง นายศตวรรษ สารถี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สะเรียง นางแสงอรุณ นาคยิ้ม พนักงานราชการฝ่ายปกครอง และสมาชิก อส.กองร้อย อส อำเภอแม่สะเรียงที่ 3 พร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าไม้ที่ 5 แม่สะเรียง และผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียนว่า มีบุคคลภายนอกมาขอเช่าพื้นที่ในหมู่บ้านดงหลวง ม.7 และบ้านห้วยปลากั้ง ม.8 ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ชั้นลุ่มน้ำ A1 เพื่อปลูกขิง และข้าวโพด หากปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าว จะทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น จึงได้แจ้งข้อสั่งการของนายอำเภอแม่สะเรียง ให้ราษฎรในหมู่บ้านทราบ ดังนี้

  1. พื้นที่หมู่บ้านดงหลวง บ้านห้วยปลากั้ง และอีกหลายหมู่บ้านในตำบลแม่เหาะ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ยวมฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นลุ่มน้ำระดับ A1 โดยมีความสำคัญคือเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และประเทศไทย
  2. สำหรับเจ้าของพื้นที่ทำกินในพื้นที่ป่า (เดิม) ได้รับการจัดทำรูปแปลงตามโครงการ คทช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน และบางพื้นที่ได้คุ้มครองผ่อนผันให้เป็นพื้นที่ทำกิน ตามคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ในลักษณะไร่หมุนเวียน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากระบบภูมิสารสนเทศของกรมป่าไม้ แต่ต้องไม่ใช่การแผ้วถางเพิ่มเติมในจุดใหม่
  3. การนำพื้นที่ทำการเกษตรที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวน ออกให้บุคคลอื่นเช่านั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไข(คทช.) ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้สามารถทำการเพิกถอนสิทธิ การใช้พื้นที่ คทช.ได้
  4. แม้ว่าการปลูกขิง ข้าวโพด และการทำเกษตรเชิงเดี่ยวไม่มีกฏหมายห้ามให้เกษตรกรปลูก แต่การปลูกพืชเหล่านี้ทำให้คุณภาพดินในพื้นที่ดังกล่าวฯ เสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว และเมื่อดินเสื่อมโทรมก็ทำให้ผลผลิตลดลง นายทุนจะส่งเสริมให้เกษตรกร ทำการบุกรุกเปิดพื้นที่ป่า (นอกเขต คทช.) ใหม่ ซึ่งจะนำมาสู่ซึ่งปัญหาการบุกรุกป่าเพิ่ม รวมถึงปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างมีนัยยะสำคัญ
  5. หลังจากที่ จนท.ป่าไม้ได้ตรวจพบว่า มีบุคคลใด เข้าประโยชน์ในพื้นที่ตรวจยึดพื้นที่เดิมอยู่ ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น