คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดตามเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านส่งผลกระทบต่อชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน
วันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 4/2567 โดยมีนายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท กรมทหาราบพรานที่ 36 นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ทั้งนี้คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับสถานการณ์ชายแดนไทย เมียนมา จากหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท ขณะที่ด่านศุลกากรแม่ฮ่องสอน, ด่านศุลกากรแม่สะเรียง ได้สรุปสถานการณ์การค้าชายแดนผ่านจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนฯ นอกจากนั้น ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รายงานสถิติการผลักดัน – ส่งกลับบุคคลต่างด้าวตามช่องทางเขตพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ขณะเดียวกันที่ประชุม ได้มีการพิจารณาหารือแนวทางปฏิบัติในการ บริหารจัดการกรณีบุคคลชาวเมียนมา เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพื่อรักษาพยาบาลและการค้าขายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการ แนวทางการควบคุมบุคคลกรณีดังกล่าว และเป็นการป้องกันการหลบหนีเข้าเมือง หรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยมอบหมายให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน , ด่านศุลกากรแม่ฮ่องสอน, ด่านศุลกากรแม่สะเรียง, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาส่งออกนอกราชอาณาจักรสินค้าประเภทแอมโมเนียมไนเตรท และพิจารณา แนวโน้มการเปิดให้มีการนำเข้า แร่ฟลูออไรด์ ผ่านช่องทางบ้านปางคาม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
นอกจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้ส่งการให้ทุกหน่วยงานมีการเตรียมความพร้อมสถานการณ์ชายแดน ด้านอำเภอสบเมยและ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หากสถานการณ์มีความรุนแรงและมีผลกระทบต่อชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนในสองอำเภอ โดยให้มีการตัดเตรียมงบประมาณการค่าใช้จ่ายในการดูแลพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฯ (ผภสม) ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการประเมินว่าจะต้องใช้งบประมาณฯ ทั้ง ๗ อำเภอ กว่า 95 ล้านบาท โดยจะมีการเสนองบประมาณไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติในการพิจารณาสนับสนุนการดูแลและช่วยเหลือต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น