ไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้านลามขึ้นยอดดอยภูชี้ฟ้า

ไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้านลามขึ้นยอดดอยภูชี้ฟ้า ระดมกำลังควบคุมไฟนาน 12 ชม. เสียหาย 5 ไร่

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 – 18.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 65 เกิดไฟป่าลุกลามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมายังยอดดอยภูชี้ฟ้า อ.เทิง ด้านทิศตะวันออกของบ้านร่มฟ้าไทย ม.24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ที่พิกัด 47 Q 0652183UTM 2195538 นายสราวุธ ค้อมคำพันธ์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สบอ.15) จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด ไปร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า(เตรียมการ) เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว และเครือข่ายการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันบ้านร่มฟ้าไทย รวมประมาณ 20 คน ร่วมกันควบคุมไฟป่าดังกล่าว

เจ้าหน้าที่และเครือข่ายควบคุมไฟป่าใช้เวลาควบคุมเพลิงนานประมาณ 12 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบความเสียหายประมาณ 5 ไร่ สาเหตุในเบื้องต้นพบว่าเป็นไฟป่าที่ลุกลามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าเป็นการจุดไฟเพื่อเผาวัชพืชทางการเกษตร หรือเผาเพื่อให้หญ้าออกใหม่เพื่อเป็นอาหารให้วัวควายที่เลี้ยงไว้

นายสราวุธ ค้อมคำพันธ์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สบอ.15) เผยว่า หน่วยงานของตนมีพื้นที่รับผิดชอบ 2 อำเภอ คือ อ.เทิง และ อ.เวียงแก่น โดยมีเครือข่ายเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 16 เครือข่าย ประกอบด้วย ต.ตับเต่า อ.เทิง 7 หมู่บ้าน และ ต.ปอ อ.เวียงแก่น 9 หมู่บ้าน ซึ่งเวลาเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่ก็จะมีเครือข่ายจากหมู่บ้านใกล้เคียงเข้าไปควบคุมไฟในเบื้องต้น แต่หากยังควบคุมไฟไม่ได้ก็จะติดต่อมายังหน่วยงานของตนไปช่วยควบคุมไฟ ส่วนเหตุไฟป่าลุกลามมาจากประเทศเพื่อนบ้านในวันนี้ ได้มีการสังเกตุการณ์และพบการลุกลามมาจากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานข้างเคียงและเครือข่ายเฝ้าระวังไฟป่าของบ้านร่มฟ้าไทยมาช่วยกับควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามมาสร้างความเสียหายในฝั่งไทยเป็นวงกว้าง

ซึ่งในพื้นที่บนยอดดอยภูชี้ฟ้า เป็นแนวรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ในทุกๆปีในช่วงฤดูแล้ง มักจะมีไฟลุกลามข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านบ่อยๆ จึงมีกิจกรรมการสร้างแนวกันไฟ 2 แผ่นดินขึ้นทุกปีตามแนวรอยต่อชายแดน ก็เลยลดผลกระทบไฟได้บ้างบางส่วน

“ในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนใหญ่ลักษณะภูมิประเทศจะเป็นหน้าผาสูงชัน มีลมแรง และพื้นที่เกิดไฟป่าส่วนใหญ่ รถบรรทุกน้ำดับเพลิงขึ้นไปไม่ถึงจุดเกิดไฟป่า ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ควบคุมไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในข่วงเวลากลางคืน ที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย” นายสราวุธ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น