การขับรถในช่วงฤดูร้อนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากฝุ่นละอองปกคลุมเส้นทาง รวมถึงแสงแดดแรงจัด ทำให้ผู้ขับขี่สายตาพร่ามัว และมีอาการง่วงนอนง่ายกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่ตรวจสอบและดูแลรถ
ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงเรียนรู้ข้อควรปฏิบัติในการขับรถช่วงฤดูร้อน ดังนี้
ตรวจสอบและดูแลรถ
ฟิล์มกรองแสง
ตรวจสอบฟิล์มกรองแสง กรณีเป็นฝ้า มีคราบมัว โป่งพอง เนื้อฟิล์มเปลี่ยนสี ให้เปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่ จะช่วยให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
เลือกติดฟิล์มกรองแสงที่ได้มาตรฐาน ไม่มีสีเข้มหรือทึบแสงมากเกินไป มีคุณสมบัติในการลด
ความร้อนและสะท้อนแสง จะช่วยลดความจ้าและกรองความสว่างของแสงอาทิตย์ที่ทำให้สายตาผู้ขับขี่อ่อนล้า ส่งผลให้ง่วงนอนง่ายกว่าปกติ
กระจกรถ
หมั่นทำความสะอาดกระจกรถ โดยใช้น้ำยาเช็ดกระจกแล้วใช้ผ้าแห้งทำความสะอาดกระจก
หรือฉีดน้ำล้างกระจกแล้วเปิดใบปัดน้ำฝนทำความสะอาดกระจก
เติมน้ำยาทำความสะอาดหรือแชมพูในกระปุกน้ำฉีดกระจก จะช่วยล้างคราบสกปรกและฝุ่นละอองที่เกาะกระจก
ยางรถยนต์
ตรวจสอบยางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เนื่องจากอุณหภูมิผิวถนนที่สูงกว่าปกติ ทำให้ยางขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้ยางบวมและเสื่อมสภาพ จึงเสี่ยงต่อการระเบิดได้
เติมลมยางให้มากกว่าปกติ 2 – 3 ปอนด์ จะช่วยป้องกันการบิดตัวของแก้มยาง ทำให้ยางร้อน
กว่าปกติ ส่งผลให้แรงดันภายในของยางรถสูงขึ้น จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากยางระเบิด
ระบบหล่อเย็น
ตรวจสอบระบบหล่อเย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยสังเกตน้ำในหม้อน้ำไม่ให้ต่ำกว่าระดับที่กำหนดไม่มีรอยรั่วตามข้อต่อหรือท่อส่งน้ำ พัดลมหม้อน้ำไม่มีรอยแตกหักหรือเสื่อมสภาพ เพราะจะส่งผลต่อระบบระบายความร้อน ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด และเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ หมั่นสังเกตเข็มวัดระดับความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์ หากระดับน้ำในหม้อน้ำพร่อง จะส่งผลให้ค่าความร้อนสูงถึงตัว H ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและได้รับความเสียหาย
วิธีปฏิบัติในการขับรถช่วงหน้าร้อน
ใช้ที่บังแดดปิดลงมาที่กระจกหน้ารถ เพื่อบังแสงแดดไม่ให้ส่องเข้าตา จะช่วยป้องกันมิให้สายตาอ่อนล้าและเกิดอาการง่วงนอนขณะขับรถ
สวมใส่แว่นกันแดดที่ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถกรองแสงได้อย่างน้อยร้อยละ 60 – 90 จะช่วยลดความสว่างของแสงอาทิตย์ ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรหยุดพักรถทุกระยะ 150 – 200 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องยนต์และยางคลายความร้อน รวมถึงผู้ขับขี่ได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ จะช่วยป้องกันการหลับในที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้
เพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีฝุ่นละอองปกคลุม โดยประเมินสภาพเส้นทาง
หากทัศนวิสัยไม่ดี ไม่ควรฝืนขับรถ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ กรณีสามารถขับรถไปได้ ให้เปิดไฟหน้ารถ ขับรถในช่องทางของตัวเอง ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่ขับแซงรถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด เพราะอาจ
เกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้ การตรวจสอบและดูแลรถให้พร้อมใช้งาน และการเรียนรู้วิธีปฏิบัติในการขับรถช่วงฤดูร้อน
จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ร่วมแสดงความคิดเห็น