วันที่ 13 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามสถานการณ์น้ำที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งแม่น้ำสายยังคงมีการเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างมากมาย ที่จะอุดรูและช่องทางที่กระแสน้ำจากลำน้ำสายไม่ให้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่้ชั้นในของตัวเมืองแม่สาย แต่สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี
โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ระดับน้ำในลำน้ำสาย ณ จุดวัดใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 เพิ่มสูงขึ้นจนเกินกว่า 6.0 เมตร ทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำสาย ตั้งแต่บางส่วนของชุมชนถ้ำผาจม, ชุมชนสายลมจอย, ตลาดสายลมจอย, ชุมชนเกาะทราย, ชุมชนเกาะสวรรค์ รวมทั้งทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน อาทิ ชุมชนและตลาดสดไม้ลุงขน ซึ่งเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนของประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น โดยในเวลาประมาณ 00.30 น. ทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา ได้นำรถแบ็คโฮมาดันกิ่งไม้ให้หลุดออกจากใต้สะพาน เพื่อไม่ให้ขวางทางน้ำ แต่ในเวลา 05.40 น. วันที่ 13 ส.ค. น้ำเริ่มล้นแนวป้องกันเข้ามา
โดยเฉพาะที่ตลาดสายลมจอย ขณะที่น้ำเอ่อเข้าท่วมสูงร่วม 1 เมตร มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าติดอยู่ในร้านค้าและในบ้านเรือนของตัวเองหลายจุด ซึ่งไม่สามารถออกมายังภายนอกไม่ได้ เนื่องจากระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย ประสานกับฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลแม่สาย นำรถขนาดใหญ่ขับเข้าไปรับคนออกมา โดยมีอาสากู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่อำเภอแม่สาย ร่วมเป็นกำลังหลักในการให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งจะได้ประสานงานกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง เพื่อนำรถยนต์ทหารซึ่งมีความสูง มาใช้ในการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมอีกด้วย
อนึ่ง สำหรับน้ำที่ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำสาย และชุมชนข้างในตัวเมืองแม่สายนั้น เมื่อไหลผ่านไปแล้ว ส่วนใหญ่จะไหลลงไปในพื้นที่ทางการเกษตรในเขตตำบลแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ และตำบลเกาะช้าง จากนั้นจึงไหลลงไปรวมกับแม่น้ำรวก ก่อนจะไหลลงไปแม่น้ำโขงในที่สุด โดยในส่วนของความเสียหายของพื้นที่ทางการเกษตรต่างๆ นั้น คงต้องรอให้น้ำลดเสียก่อน จึงจะสามารถสำรวจและประเมินมูลค่าความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่รับผิดชอบมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบทางราชการกันอยู่แล้ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น