เชียงใหม่คริปโตซิตี้ ยกระดับเมืองด้วยเทคโนโลยี

เมื่อพูดถึง “คริปโตเคอเรนซี่” แน่นอนว่าหมายถึงเหรียญดิจิตอล ที่กำลังเป็นสินทรัพย์ที่กำลังได้รับความนิยมในการลงทุน ไปจนถึงการเก็งกำไร แม้ในขณะนี้กำลังจะอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากวิกฤตทางการเงินที่กำลังเกิดขึ้น

แต่หากเราเจาะลึกไปถึงเทคโนโลยีที่รองรับเหรียญดิจิทัล อย่าง “บล็อกเชน” ระบบเก็บข้อมูลแบบดิจิทัล ที่ให้ฐานข้อมูลจากคอมพิวเตอร์นับล้านๆเครื่องทั่วโลก ในการเก็บเป็นทอดๆแบบห่วงโซ่ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบเก็บข้อมูลดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูง

ไม่เพียงแต่จะใช้สำหรับรองรับระบบเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่แล้ว ยังมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในด้านต่างๆ เช่น NFT หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกรรมทางการเงิน โครงสร้างพื้นฐาน การแพทย์ เป็นต้น

ตัวอย่างเมืองที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการพัฒนาเมือง อย่างเมือง Zug เมืองเล็กๆสวยงามริมทะเลสาบในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่กลับมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 20 ล้านล้านบาท เทียบเท่างบประมาณประเทศไทย 6 ปีรวมกัน

เนื่องจากการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชน และคริปโตเคอร์เรนซี่มาพัฒนาเมือง จนกลายเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพ หรือบริษัทที่ประกอบกิจการด้านเทคโนโลยี ปัจจุบันยังถือว่าเป็นเมืองที่มีรายได้ประชากรสูงสุดในสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย

จะเกิดอะไรขึ้น หาก “เชียงใหม่” จะเดินตามรอยความสำเร็จของเมือง Zug
เพื่อเพิ่มโอกาสผู้ประกอบการในท้องถิ่น และรายได้ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลในอนาคต ?

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภาครัฐและเอกชนในเชียงใหม่ ได้ผลักดันโครงการ Chiangmai Crypto City (CCC) ซึ่งจะเป็นการนำร่องให้เชียงใหม่ ให้เป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนแห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน

โดยโครงการนี้ จะเป็นการเปิดให้ทุกฝ่ายสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องการพัฒนาท้องถิ่นแล้ว ยังเอื้อต่อการเติบโตด้านธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพ

ผลงานจากโครงการดังกล่าวที่เริ่มดำเนินการแล้ว อย่างเช่น โครงการเมืองแม่เหียะ Smart City ซึ่งทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ทั้ง แผนที่ 3D Model , Dashboard ข้อมูลการให้บริการประชาชนของฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลได้เลือกเทศบาลตำบลแม่เหียะ เป็นเมือง Blockchain Digital transformation platform ในการพัฒนาเมือง

หากโครงการนี้ประสบความเร็จตามเป้าหมาย นอกจากจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาเมืองเชียงใหม่แล้ว ยังเปิดโอกาสด้านการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล โดยเฉพาะการสร้างบริบทที่เอื้อให้สตาร์ทอัพท้องถิ่นเติบโต

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ , สยามบล็อกเชน , Techsauce , กรุงเทพธุรกิจ , กรมประชาสัมพันธ์

ร่วมแสดงความคิดเห็น