ฝนตกดินสไลด์เกือบถึงตัวบ้าน หวั่นไม่ปลอดภัยต้องรื้อบ้านหนี

ฝนตกดินสไลด์เกือบถึงตัวบ้าน หวั่นไม่ปลอดภัยต้องรื้อบ้านหนี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข

วันที่ 14 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณี ดินบนภูเขาพื้นที่บ้านต้นยาง ม.18 ต.หงาว อ.เทิง จ.เชียงราย สไลด์ลงมาเกือบถึงตัวบ้าน คนในบ้านกลัวความปลอดภัยต้องรื้อบ้านหนี และไปขออาศัยกระท่อมเพื่อนบ้านนอนตอนกลางคืน เผยแจ้งผู้นำและ อปท.ในพื้นที่ไปแล้ว และอยู่ระหว่างรอความคืบหน้า ทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างหวาดผวาเพราะมีรอยดินยุบและแยกตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้าน อปท.ชี้แจง ยังรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะจุดสไลด์อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวน และหากผ่านความเห็นชอบ จะต้องรอฝนหยุดตกถึงจะเข้าไปดำเนินการให้ได้

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.นันทนา โพธิ์เกตุ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 185 ม.18 ต.หงาว อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องรื้อทั้งหลัง เพราะกลัวดินจะสไลด์ลงมาเรื่อยๆ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า พ่อของตนได้มาบุกเบิกอยู่ในที่ดินปัจจุบัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 รวมเป็นระยะเวลาประมาณ 10 กว่าปี เป็นที่ดิน คทช. เนื้อที่ 4 ไร่ 13 วา ยังไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาใช้งาน เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เริ่มมีดินไหลลงมาแต่ยังไม่เยอะ จนกระทั่งวันที่ 6 ก.ย. พ่อของตนได้ขึ้นมาต่อน้ำประปาภูเขาที่บนเนินซึ่งเป็นสวนกาแฟ ก็พบว่ามีรอยดินทรุดและแยกตัวเป็นแนวยาว และเริ่มมีดินบางส่วนที่ไหลสไลด์ลงไปเกือบจะถึงตัวบ้าน จึงพูดคุยกันว่า กลัวดินจะสไลด์ลงไปทับบ้านของตน ซึ่งปลูกอยู่ตรงกลาง ถัดจากบ้านของพ่อ ซึ่งเดิมทีก็อยากจะรื้อเพื่อสร้างใหม่อยู่เหมือนกันเพราะมีปลวกกัดกินไม้โครงสร้าง แต่ก็ยังไม่ทันได้รื้อ พอเกิดมีดินสไลด์ก็เลยตกลงที่จะรื้อบ้านของตนออก เพราะกลัวจะไปขวางทางน้ำหรือขวางทางดินที่จะสไลด์ลงมา โดยมีชาวบ้านและทหารพรานมาช่วยในการรื้อถอน ส่วนดินที่สไลด์ลงเกือบถึงตัวบ้านได้นำเอารถไถมาไถดันดินออกไปไว้ห่างจากตัวบ้านบ้างแล้ว

“หลังจากเกิดการทรุดตัวและสไลด์ของดินที่ภูเขาหลังบ้าน ตนก็ได้ไปแจ้งกำนัน และเทศบาลในพื้นที่แล้ว และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆได้เข้ามาดูความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดการว่าจะเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาให้เมื่อไหร่ เพราะพื้นที่อยู่เป็นที่ดิน คทช. อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงต้องรอความชัดเจนจากทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ทางครอบครัวตนซึ่งมีกัน 7 ชีวิต ประกอบด้วย พ่อแม่ ตนเองและสามี เด็ก 2 คน และผู้สูงอายุอีก 1 คน ก็อยู่กันอย่างหวาดกลัว กินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวดินจะถล่มทับ ตอนกลางคืนต้องไปขออาศัยนอนกระท่อมของคนในหมู่บ้านที่เขาเอาไว้พักผ่อนตอนมากรีดยาง ซึ่งเขาก็ใจดีให้ไปนอนกัน ก็อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้โดยเร็ว” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูบนภูเขาซึ่งมีการสไลด์ของดิน โดยด้านบนของภูเขาลูกดังกล่าวได้มีการปลูกกาแฟ พบว่าเกิดการทรุดและแยกตัวของดินบนภูเขาเป็นแนวยาวหลายจุด บางจุดเป็นการทรุดตัวของดินเป็นทางยาวหลายสิบเมตร บางจุดก็เป็นทางแยกเป็นหลุมลึกประมาณ 1 เมตร ลักษณะพร้อมจะถล่มลงไปที่พื้นดินข้างล่างตลอดเวลา สร้างความหวาดวิตกให้กับผู้อยู่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก

นายสมนึก อินทร์ใจ อายุ 54 ปี บิดา กล่าวว่า อยากให้ทางหน่วยงานได้มาช่วยนำเอาดินตรงบริเวณที่ใกล้ตัวบ้านและกำลังจะสไลด์ออกไป เพราะกลัวจะไหลไปทับตัวบ้าน ตอนเห็นทีแรกก็ตกใจมาก คิดว่าจะสไลด์ไม่มาก แต่พอมาดูข้างบนภูเขาก็พบว่ามีรอยสไลด์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ด้านนายสวาท ชัยดรุณ นายกเทศมนตรตำบลหงาว อ.เทิง จ.เชียงราย เผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับดินสไลด์ที่บ้านต้นยาง ม.18 ตนก็ได้ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งนายอำเภอเทิง และป่าไม้จังหวัดเชียงราย เพราะเห็นว่าที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยป่าแดง ป่าห้วยป่าตาล และป่าห้วยไคร้ การจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างไดในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ หากทางป่าไม้จังหวัดเชียงรายให้คำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสามารถดำเนินการได้ ทางเทศบาลก็พร้อมจะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ในทันที โดยจะต้องรอให้ฝนหยุดตกและพื้นดินแห้งตัวบ้าง โดยดินที่นำออกมาก็ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว จะต้องนำไปถมในที่สาธารณะประโยชน์ ในเบื้องต้นทางเทศบาลได้เข้าไปมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงสอบถามความเดือดร้อนและความต้องการเร่งด่วนไว้แล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น