(มีคลิป) ผบช.ภ.5 เปิดอบรม Active Shooter “หนี ซ่อน สู้” รร.วชิรวิทย์

ผบช.ภ.5 เปิดอบรม Active Shooter “หนี ซ่อน สู้”โรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมการฝึกอบรมความรู้ เรื่อง Active Shooter หนี ซ่อน สู้  ของโรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่

โดยมีวิทยากรจาก กองกำกับการปฎิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค5 มีความรู้ ความชำนาญ มาถ่ายทอดความรู้ วิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์กราดยิง หนี ซ่อน สู้ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากให้กับคณะครู บุคลากร และนักเรียน โรงเรียนวชิรวิทย์ เพื่อให้เกิดทักษะในการเอาตัวรอดแก่ตนเองและช่วยเหลือบุคคลรอบข้างจากสถานการณ์ โดยมี พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, นายวรทัศน์ บุญโคตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่ และบุคลากรให้การต้อนรับ และร่วมพิธี ณ โรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่

นายวรทัศน์ บุญโคตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่ กล่าวว่าปัจจุบัน เหตุกราดยิง นั้น ไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในประเทศไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้วเช่นกัน ซึ่งส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่  ที่ไหน และกับใครโรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่จึง ให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยของผู้เรียนอย่างสูงสุด ได้จัดทำมาตรการความปลอดภัยของโรงเรียนขึ้น เพื่อให้นักเรียน ครูและบุคลากรทุกคนมีความพร้อมในการรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเน้นการปฏิบัติที่อยู่บนพื้นฐานของคำว่า “การป้องกัน มีค่ามากกว่าการแก้ไข “โรงเรียนจึงได้จัดกิจกรรมการอบรม Active Shooter หนี ซ่อน สู้  ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน ครูและบุคลากรทุกคน มีความรู้และทักษะในการป้องกันตนเองและผู้อื่น โดยเมื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับการอบรมแล้วจะมีความรู้และทักษะในการป้องกันตนเองจากภัยอันตรายในรูปแบบต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้โรงเรียนได้รับความอนุเคราะห์จากท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ท่านพลตำรวจโทปิยะ  ต๊ะวิชัย ที่ให้การสนับสนุนวิทยากรจากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ให้เกียรติเป็นวิทยากรหลักตลอดการอบรม โดยมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ที่เข้ารับการอบรมจำนวน 315 คน นักเรียนที่ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 20 คน ครูและบุคลากร จำนวน 30 คน รวมผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมดจำนวน 365 คน โดยการอบรมมีทั้งการอบรมความรู้ด้านทฤษฎี และทักษะในการปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้ควบคู่กับการปฏิบัติจริง

ร่วมแสดงความคิดเห็น