เชียงใหม่จุดความร้อนพุ่ง! พบมากสุดในไทย

จุดความร้อนในไทยวานนี้ ลดลงเหลือ 2.8 พันจุด พบที่เชียงใหม่มากที่สุด ส่วน PM 2.5 เช้านี้ที่แม่ฮ่องสอน พุ่งกว่า 5 ร้อยไมโครกรัม

GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 29 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน 2,870 จุด โดยมีเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ขึ้นนำอยู่ที่ 3,964 จุด, สปป.ลาว 2,139 บาท, เวียดนาม 205 จุด, กัมพูชา 195 จุด และมาเลเซีย 53 จุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 1,479 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,080 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 111 จุด, พื้นที่เกษตร 100 จุด, พื้นที่เขต สปก. 86 จุด, และพื้นที่ริมทางหลวง 14 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ เชียงใหม่ 608 จุด, แม่ฮ่องสอน 522 จุด และเชียงราย 435 จุด

ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ทางภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วงมากเช่นเคย เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 11:00 น. ที่ผ่านมาพบหลายจังหวัดมีค่า PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่จังหวัด #แม่ฮ่องสอน ที่มีค่า PM 2.5 สูงสุดกว่า 500 ไมโครกรัม ซึ่งเกินค่ามาตรฐานไปถึง 10 เท่า (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 ไมโครกรัม) ตามด้วย #เชียงราย #เชียงใหม่ #พะเยา #น่าน #ลำพูน #ลำปาง #แพร่ #ตาก #เลย ควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่ เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี

 สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้าน อาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น หรือคาดว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น