(มีคลิป) แม่ฮ่องสอน ผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โผพลิกหมดสิ้น

ผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โผพลิกหมดสิ้น นายปกรณ์ จีนาคำ หรือนายกแม้ว อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน บุตรชายของ นายปัญญา จีนาคำ สส.พรรคพลังประชารัฐที่เดินตาม ธรรมนัส ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของเขต 1 ขณะที่เขต 2 ตัวเก็ง นายวิทยา หวานซึ้ง พรรคเพื่อไทย แรงตก ปล่อยให้ นายสมบัติ ยะสินธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ แซงโค้งไปเรียบร้อย แต่เขตนี้ยังนับคะแนนไม่เสร็จ พรรคเพื่อไทยยังพอมีลุ้น การเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่าพลังของ นายก อบจ. และ กำนันผู้ใหญ่บ้าน บวกกับกระสุนยังคงมีมนต์ขลังมิเสื่อมคลาย ขณะที่เยาวชนคนรุ่นใหม่เทใจให้ก้าวไกลจนหมดสิ้น

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ของ กกต.จ.แม่ฮ่องสอน เขต 1 ( อ.ปาย , อ.ปางมะผ้า ส, อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ อ.ขุนยวม ) นายปกรณ์ จีนาคำ พรรคพลังประชารัฐ คะแนน 18,777 คะแนน นับเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 ส.อ.สมเกียรติ บุญคำมา พรรคก้าวไกล คะแนน 13,870 คะแนน อันดับ 3 ดนุภัทร์ เชียงชุม พรรคประชาธิปัตย์ คะแนน 12,460 คะแนน

เขต 2 ( อ.สบเมย , อ.แม่สะเรียง และ อ.แม่ลาน้อย ) นายสมบัติ ยะสินธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ คะแนน 20,345 คะแนน ( นับแล้ว 99.56 เปอร์เซ็นต์ ) อันดับ 2 นายวิทยา หวานซึ้ง พรรคเพื่อไทย คะแนน 17,497 คะแนน อันดับ 3 นายจำลอง ศรีสวัสดิ์ พรรคพลังประชารัฐ คะแนน 14,709 คะแนน

เปิดเบื้องหลังการชนะคะแนนแบบ พลิกโผ 2 ตลบมาจาก การจับมือกันระหว่าง ขาใหญ่ นายกอบจ.แม่ฮ่องสอน กับ กำนันผู้ใหญ่บ้านที่กะล้มช้าง คือ รวมไทยสร้างชาติ ที่เคยอยู่บ้านเดียวกันกับพลังประชารัฐ ซึ่งสายสัมพันธ์ของ ร.อ.ธรรมนัส กับ นายก อบจ.แม่ฮ่องสอน ที่มีคอนเนคชั่นกับนักธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้างในภาคเหนือ ขณะที่ ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อผู้นำในแต่ละแห่ง และเห็นแก่เงิน บวกกับการมองเห็นการดูแลประชาชน เมื่อถนนหนทางมีปัญหา รถจักรกลหนักของ อบจ.วิ่งกันเกร่อ ย่อมทำให้ได้รับการยอมรับจากประชาชนในแทบทุกพื้นที่ ขณะที่ตัวเต็ง เข้าไม่ถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งที่ นายใหญ่สั่งมา แต่กลับไปคอนแทคกับ นายก อบต.แทบทุกแห่ง ทั้งที่ นายกฯเหล่านั้น ฐานเดิมก็มาจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน ส่งผลให้ตกม้าตายไม่เหลือลายให้เห็น แบบที่ว่าคิดผิดชีวิตเปลี่ยน

อย่างไรก็ตามในส่วนของเขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับคะแนนนำลิ่ว ก็มาจากมีความสัมพันธ์ที่แน่นปึ๊กกับ นายก อบจ.แม่ฮ่องสอน อานิสงส์เลยเผื่อแผ่ถึงกันอย่างมั่นคง ในส่วนของ พรรคก้าวไกล เยาวชนม้ามืดทั้งหลาย ที่ไปเรียนและทำงานนอกเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน พากันเทคะแนนให้พรรคก้าวไกลอย่างถวายหัว ส่งผลให้คะแนนพรรค ของก้าวไกล นำโด่งกว่าทุกพรรค

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กระแสการซื้อเสียงเป็นที่รับรู้ทั่วทุกวงการ ยกเว้นหน่วยงานรัฐที่ไม่รู้ไม่เห็น เอาตามบิ๊กป้อมที่มักบอกว่า “ ไม่รู้ ไม่รู้ “ ส่งผลให้มีการซื้อเสียงทับซ้อนกันคือ ชาวบ้านรับเงินจากนักการเมืองทุกคนที่เอาเงินมาให้ แต่กลับเลือกคนที่ผู้นำชี้แนว มีหลายหมู่บ้านที่มีการทวงเงินและต้องคืนเงินกันอุตลุด หลังผลการนับคะแนนประจำหน่วย พรรคที่จ่ายเงินไปแล้ว คะแนนหายไปกับสายลม ส่งผลให้ บรรดาบอดี้การ์ด ควันออกหู ยกสายทวงตังค์กันสนั่นเมือง

สำหรับโผที่พลิกกันไม่ต่ำกว่า 2 รอบ นั้น เดิม ทุกสำนักพุ่งเป้าไปที่ นายจำลอง รุ่งเรือง ผู้สมัครหมายเลข 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่มาแรง เนื่องจากฐานเดิม ได้ลงทุนลงพื้นที่ทุกแห่งในเขต 1 มากว่า 2 ปี มีการให้การช่วยเหลือประชาชน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของ อบต.ทุกแห่ง ทำให้ถูกมองว่า อย่างไรเสียต้องได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 อย่างแน่นอน ขณะที่ นายวิทยา หวานซึ้ง ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 2 ต้องได้คะแนน มาเป็นอันดับ 1 เช่นกัน คือ มาจากกระแสพรรค และ ธุรกิจส่วนตัวที่ส่งออกผักสดจากแม่ฮ่องสอน ไปยังตลาดในภาคกลางมานานเกือบ 20 ปี ซึ่งมีชนเผ่าต่างๆ เป็นลูกค้าและร่วมค้าผักสดนานาชนิด กลับร่วงเพราะอิทธิพลของ นายก อบจ.ที่หนุนเพื่อนรัก สมบัติ ยะสินธุ์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ได้มีเสธ.คนดัง คู่กัด ร.อ.ธรรมนัส เรียกไปคุยและขอร้องไม่ให้เข้าไปยุ่งกับการเลือกตั้งในเขต 2 และก็ได้มีการรับปากกันไว้แล้วด้วย แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ ก็ตัวใครตัวมันละคุณโยม

ร่วมแสดงความคิดเห็น