(มีคลิป) สถานการณ์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านยังคงปะทะต่อเนื่อง

สถานการณ์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านยังคงปะทะต่อเนื่อง ผู้อพยพหนีภัยความไม่สงบเพิ่มเข้ามาฝั่งไทยอีก 2 จุด อำเภอแม่สะเรียง ระดมทีมให้ความช่วยเหลือ


ในวันนี้ 27 มิ.ย. 2566 นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง ได้ประชุมหารือร่วมกับพันเอกสมภพ ใจบุญ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ ผบ.ร้อย.ตชด.337 นายแพทย์บัณฑิต ดวงดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สะเรียง นายดำรงค์ นัยบุตร สาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเครือข่ายอง์กรเอกชน ประชุมหารือเร่งด่วนการจัดระเบียบในการเข้าไปช่วยเหลือผู้อพยพทั้ง 2 จุด (บ้านอุนู และบ้านจอปราคี ต.แม่คง ) ณ ห้องประชุมอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน



โดยอำเภอแม่สะเรียง ระดมทีมให้ความช่วยเหลือ หลังผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาทะลักเข้ามาเพิ่มอีก 2 จุด ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดนสาละวินการเดินทางค่อนข้างลำบาก สถานการณ์ชายแดน ยังคงปรากฎข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดนในพื้นที่ ด้านตรงข้าม ช่องทางเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และบริเวณช่องทางห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อเนื่องเป็นระยะ ทำให้ขณะนี้มีรายงานผู้อพยพหนีภัยความไม่สงบเพิ่มเข้ามาฝั่งไทยอีก 2 จุด คือ ที่บ้านอุนู และบ้านจอปราคี ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดนการเดินทางค่อนข้างลำบาก เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ตชด.337 และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเข้าไปดูแลให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเตรียมพร้อมจัดระเบียบการให้ความช่วยเหลือ



ด้านองค์กรเอกชนและเครือข่าย ได้บูรณาการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังในการดูแลสร้างแค้มป์ที่พัก และการสร้างห้องสุขาให้มีสุขอนามัย โดยองค์กร MI ทำการขุดหลุมส้วม ทำหลุมขยะ ทำบ่อน้ำ ร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อรองรับการสร้างสุขาภิบาล สร้างห้องน้ำ และปรับปรุงระบบน้ำสำหรับใช้ อุปโภค-บริโภค รวมทั้งการป้องกันโรคระบาด โดยเฉพาะโรคมาเลเรีย ซึ่งพบผู้ป่วยแล้วจำนวน 18 ราย ทั้งนี้ให้งดรับหรือบริจาคเสื้อผ้ามือสองเนื่องจากมีเพียงพอ เพราะถ้าเหลือจะกลายเป็นขยะ และทางองค์กร TBC ได้รายงานถึงการนำอาหารและสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้เข้าไปช่วยเหลือที่หมู่บ้านอุนู และหมู่บ้านจอปราคี โดยได้คำนวณให้ต่อจำนวนรายส่วนการเดินทางค่อนข้างลำบากเนื่องจากเป็นฤดูฝนต้องใช้รถโฟว์วิลเข้าพื้นที่และพันล้อด้วยโซ่เพื่อป้องกันการลื่นไหล ตามด้วยใช้รถจักรยานยนต์ ในการขนลำเลียงเข้าพื้นที่ไปอีก1 ชั่วโมง การเดินทางเข้าไปพื้นที่บ้านอุนู และบ้านจอปราคี ใช้เวลาเดินทางไป 10 ชั่วโมงและกลับอีก 10 ชั่วโมง


ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้เดินทาง เข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 4,798 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 4 พื้นที่ ดังนี้ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง 3,270 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะแข่ ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม 839 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านอุนู ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จำนวน 206 คน และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านจอปราคี ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 483 คน และที่ยังตกค้างอยู่ตามแนวชายแดนอีกประมาณ 800 กว่าคนยังไม่สามารถเข้ามาได้ เนื่องจากพื้นที่รองรับมีจำกัด แต่สามารถร้องขอยาเวชภัณฑ์ หรืออาหาร ได้โดยทางฝ่ายทหารผู้ดูแลพื้นที่ชายแดนจะเป็นผู้นำส่งให้ยังพื้นที่ชายแดน และทางกิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียงจะเป็นหน่วยงานบริหารภารกิจในการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ซึ่งอำเภอแม่สะเรียง ได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอย่างเต็มศักยภาพ

ร่วมแสดงความคิดเห็น