วันนี้เชียงใหม่คุณภาพอากาศเป็นพิษต่อสุขภาพ ติดอันดับ 1 ของโลก 

วันนี้ถ้าคุณเดินไปที่แสงสว่างของหลอดไฟข้างทางในพื้นที่เชียงใหม่ จะเห็นได้ว่าแสงไฟยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ จะกระทบกับอนุภาคของฝุ่นขนาดเล็ก จนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สอดคล้องกับค่าฝุ่นที่เครื่องวัดสามารถวัดได้สูงเกือบ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และช่วง 2 วันมานี้ฝุ่นควันปกคลุมค่อนข้างหนาแน่น เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ของระบบทางเดินหายใจ รู้สึกแสบจมูกและเริ่มหายใจยากมากขึ้น

ปัญหาฝุ่นควันที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับประชาชน บางส่วนและอาจจะละเลยการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ แต่ว่าสำหรับบางคนก็ตระหนักถึงอันตรายของฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพและให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเอง

จุดที่ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน คือ ย่านร้านค้าริมทางหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งปกติจะมี นักศึกษา อาจารย์และพนักงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาเลือกซื้ออาหารรับประทานในช่วงเย็นจำนวนมาก แต่ปัญหาฝุ่นในระยะนี้ทำให้จำนวนลูกค้า ที่เป็นนักศึกษาและประชาชนออกมาซื้ออาหารลดลงอย่างมาก ลดลงไปประมาณสัก 20% ในช่วงนี้

ต้องบอกว่าจริงๆจุดนี้ถือว่าเป็นย่านเศรษฐกิจ และการค้าที่ฝากท้องของน้องๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้วยความที่เป็นกาดหลังมอ(ตลาดด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่) จะขายสินค้าและอาหารที่ราคาค่อนข้างถูกเป็นราคานักศึกษา ตลาดจะเปิดทุกวัน ปิดทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน

ส่วนสถานการณ์ในตัวเมืองเชียงใหม่มีฝุ่นค่อนข้างสูง ต้นตอส่วนหนึ่งมาจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภูเขารอบตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วก็ทำให้มีการสะสมของฝุ่นควันเกิดขึ้น จุดความร้อนดาวเทียมมีการตรวจพบบริเวณพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ถ้าไม่นับฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจุดสีแดงหนาแน่นอย่างมาก โดยสังเกตสีแต่ละสีที่แตกต่างกัน ก็เป็นจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในจุดพื้นที่ที่แตกต่างกันไปด้วย

พื้นที่ จุดสีดำ จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม

พื้นที่ จุดสีน้ำเงิน คือจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์

พื้นที่ จุดสีแดง คือ ป่าสงวน

ถ้าดูในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตัวเมืองเชียงใหม่ จะเห็นว่ามีจุดความร้อนเกิดขึ้นรอบตัวเมือง คือในตัวเมืองเทศบาลนครเชียงใหม่ อาจจะไม่ค่อยมี แต่จะเห็นว่าทางเหนือ อย่างอำเภอแม่ริม เมืองแม่โจ้ ขึ้นไป จุดแดงจะเยอะมากจริงๆ ตรงนี้อยู่ใกล้เมืองมาก ขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเป็นอำเภอเชียงดาว มี จุดสีแดง จุดสีน้ำเงิน เช่นเดียวกันค่อนข้างมากพอสมควรสำหรับทางด้านทิศเหนือ

ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ก็จะมี อำเภอสะเมิง อำเภอแม่วาง  สีแดงเยอะมาก ส่วนด้านอำเภอสะเมิงพบจุดความร้อนค่อนข้างเยอะ

ท้ายที่สุดแล้วจะเห็นว่าไฟป่าเกิดขึ้นทั้ง ทางทิศเหนือและบริเวณทางทิศตะวันตก ของจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงทิศใต้ของเชียงใหม่ ด้วยเชียงใหม่เป็นแอ่งกระทะฝุ่นควันก็จะไปรวมกันที่ตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วก็ทำให้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างสูง

ถ้าดูจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีมากกว่า 2,000 จุด โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ สถานการณ์จะแตกต่างกับพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึงพื้นที่ภาคกลาง เพราะภาคเหนือจะปรากฏสีน้ำเงิน สีแดง เป็นหลัก ก็คือไหม้ในพื้นที่ป่า แต่ว่าพื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสาน จะเห็นสีดำมีสัดส่วนใกล้ๆ กัน ก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ในพื้นที่ภาคเหนือโดยส่วนใหญ่แล้ว มีปัญหาเรื่องของไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่

แล้วจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ซึ่งมีผลต่อพื้นที่ภาคเหนือหรือไม่ ต้องบอกว่าในตอนนี้ถ้าไปดูลมที่พัดปกคลุมที่เมียนมารวมถึงที่เชียงใหม่ ก็อาจจะพออนุมานได้ว่า น่าจะยังไม่ค่อยมีผลกระทบกับพื้นที่เชียงใหม่มากนัก เพราะว่าลมในพื้นที่ของเมียนมา ไม่ได้พัดมาที่ภาคเหนือตอนบนโดยตรง

ขณะเดียวกันในพื้นที่ภาคเหนือตอนนี้ลมค่อนข้างที่จะพัดอ่อน ประกอบกับสภาพอากาศที่ยังระบายตัวไม่ดีพอเกิดจุดความร้อนเยอะๆ แบบนี้ ก็ทำให้ฝุ่นนั้นสามารถที่จะสะสมตัวได้เพิ่มมากขึ้น ทีนี้พอจุดความร้อนเยอะขนาดนี้ แน่นอนครับปริมาณฝุ่นเยอะขึ้นอย่างแน่นอน

เชียงใหม่วันนี้เผชิญกับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ถึงขั้นได้รับผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน นักท่องเที่ยวบางส่วนอาจจะต้องพิจารณาแล้วว่า จะไปเที่ยวเชียงใหม่หรือไม่ในช่วงสงกรานต์ ในสถานการณ์ลักษณะแบบนี้

ซึ่งตามรายงานจุดความร้อนที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเดียว 300 จุด ไม่นับรวมจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียง ด้วยสภาพอากาศที่เป็นแบบนี้ทำให้เว็บไซต์ไอคิวแอร์ มีการรายงานว่าที่ จังหวัดเชียงใหม่ค่าคุณภาพอากาศเป็นพิษต่อสุขภาพ ติดอันดับ 1 รองลงมาเป็นอินเดีย

ตัวเลขคุณภาพอากาศพีเอ็ม 2.5 ค่อนข้างสูง ค่ามาตรฐานที่เรากำหนดก็คือ 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ว่าเชียงใหม่วันนี้เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง บางจุดเป็นหลักร้อยไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่อนข้างอันตราย

ทีนี้ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของการที่จะไปจัดการกับต้นกำเนิดฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือ มันก็ดูมีความท้าทายอยู่พอสมควร เพราะจากความร้อนที่เราเห็นจากข้อมูลทางสถิติมันมีสิ่งน่าสนใจ คือ พบว่าจุดความร้อนที่เป็นจุดสีน้ำเงินบวกกับจุดสีแดง ก็คือพื้นที่ป่าอนุรักษ์กับป่าสงวน 2 ส่วนนี้รวมกันเป็นจุดความร้อนที่เกิดขึ้นมากถึง 73% ใช้พื้นที่การเกษตร แค่ประมาณ 20%  เท่านั้น ทีนี้พอเป็นพื้นที่ป่า แน่นอนมันดับไฟค่อนข้างยาก เจ้าหน้าที่และอาสาก็จะต้องมีการขึ้นไปปฏิบัติงานบนภูเขา

คำถามคือ แล้วหลังจากนี้จะทำอย่างไร เพื่อที่จะทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก่อนที่จะถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนมหาสงกรานต์ แล้วนักท่องเที่ยวก็กำลังวางแผนจะเดินทางมาเที่ยว ซึ่งจริงๆ แล้วในช่วงนี้เหตุการณ์ปกติถ้าไม่มีสถานการณ์แบบนี้ ก็คงจะเตรียมหาที่พัก เตรียมหาตั๋วเครื่องบินกันแล้ว แต่ตอนนี้ บางคนอาจจะบอกว่ารอดูสถานการณ์ก่อนละกัน เข้าเดือนเมษายนถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็อาจจะเดินทางไปท่องเที่ยว นั้นแปลว่ามันคือความเสี่ยงทางด้านการพื้นตัวของเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอย่างมากที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาก่อนหน้านี้

ส่วนสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือในพื้นที่อื่นๆ สีแดงมีจำนวนมากส่งผลกระทบกับสุขภาพ

พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีรายงานนะคะว่าอยู่ที่ 149.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

พื้นที่จังหวัดลำปางสูงมาก คือ 173.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

พื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน คือ 179 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เฉพาะพีเอ็ม 2.5 ก็สูงเกินค่ามาตรฐานไปไม่รู้กี่เท่า ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุภาพของประชาชนในพื้นที่ มีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ น่าจะยังคงเกินค่ามาตรฐานแบบนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ หลังจากนั้นก็จะมีแนวโน้มที่จะลดลงได้ เพราะว่าจะมีอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณตอนบนของประเทศไทย และอาจจะทำให้เกิดพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้

เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น