หนุ่มทาสยาเมาคลั่ง จุดไฟเผาบ้านตัวเองวอดทั้งหลัง

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 9 พ.ค. 67 ร.ต.อ.นนทกร ศาลาคราม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน พื้นที่บ้านโป่งฮึ้ง ม.2 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่งานป้องกัน ทต.ห้วยสัก ทต.ท่าสาย ทต.ดอยลาน สมาคมธรรมนันท์เชียงราย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษอาสาสมัครตู้ยามห้วยสัก

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้ ม.2 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ของนายไพบูลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เมื่อไปถึงพบว่าไฟได้โหมลุกไหม้รุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งในและนอกพื้นที่ได้ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิง แต่ไฟลามรวดเร็วบ้านวอดเกือบทั้งหลัง สามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 00.20 น. ของวันที่ 10 พ.ค. โชคดีที่ไม่ได้ลุกลามไปพื้นที่ข้างเคียง

ซึ่งสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้เป็นการวางเพลิงเผาบ้านตัวเอง ผู้ก่อเหตุคือนายไพบูลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน หลังเกิดเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมตำรวจห้วยสักนำโดย ร.ต.อ.อำนวย อาทนิตย์ รอง สว.ป. สภ.เมืองเชียงราย พร้อมทีมงาน และชาวบ้านช่วยกันคุมตัวไว้ได้ โดยผู้ก่อเหตุยังคงมีอาการมึนงง คล้ายคนเมายา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

และจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่บ้านดังกล่าวคนเดียว พ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนพี่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด และส่งเงินมาให้ญาติเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายภายในบ้านให้ ซึ่งคนก่อเหตุมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอย่างหนัก เพื่อนบ้านเคยเห็นว่าเคยถือมีดอาละวาดอยู่ภายในบ้าน เคยถูกจับเข้าคุกเป็นว่าเล่น แต่ก็ไม่เคยเห็นมีการอาละวาดทำลายข้าวของ หรือทำร้ายร่างกายคนอื่นมาก่อน แต่ในระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา ชายคนก่อเหตุทำตัวแปลกๆ จากที่ไม่เคยเข้ามาบ้านของป้า ก็จะวนเวียนเข้าไปบ่อย และก็อาละวาด โวยวาย ถามหาพินัยกรรมกับตนอยู่ตลอด ตนป้าของคนก่อเหตุก็บอกไปว่าบ้านนอกแบบนี้ไม่มีใครเขาทำพินัยกรรมกันหรอก

ในพื้นที่ ต.ห้วยสัก มักจะมีคนเมายาเสพติดอาวาดบ่อย คนทำงานเผยว่าสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยาบ้าหาง่าย ประกอบกับกฏหมายอ่อน มีการออกกฏว่าผู้เสพที่ถือครอง 5 เม็ดเป็นเพียงผู้ป่วย เมื่อเจ้าหน้าที่จับตัวมาได้ก็ต้องส่งเข้าสู่กระบวนการบำบัด เวลาไม่นานก็ถูกปล่อยตัวกลับมา และกลับมาเสพอีกเหมือนเดิม เป็นปัญหาวนเวียนไม่รู้จบ ลำบากทั้งคนทำงาน และเป็นภัยสังคมที่ชาวบ้านในพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง

ขอบคุณภาพและคลิป จากทีมงานช่างภาพกู้ภัยเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น