ทำสมาธิกันเถอะ เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

พลังจิตนี้ ถ้าผลิตขึ้นมามากขึ้น ๆ แล้ว
สามารถที่จะควบคุมจิตใจของตนเองได้

ในขณะนี้ เรายังทำสมาธิกันยังไม่ทั่วถึง
ขาดตกบกพร่องทางสมาธิ
เพราะฉะนั้น เมื่อสมาธิขาดตกบกพร่องไป
พลังจิตก็จะขาดตกบกพร่องตามด้วย

เมื่อพลังจิตบกพร่องไปตาม มันก็ไม่สามารถที่จะควบคุมจิตใจของเราได้ ใจนี้มันจะชอบแส่สาย ไปในทางที่ผิดอยู่เสมอ

เมื่อขาดพลังจิตเมื่อใดแล้ว มันก็จะนำไปสู่ความทุกข์ นำไปสู่ที่เราไม่ต้องการ แต่เราได้ทำมันลงไป โดยความที่เรา ไม่สามารถควบคุมจิตใจได้

ถ้าหากว่ามีคนมาเข้าใจข้อนี้ แล้วก็พยายามที่จะหาวิธีการสร้างสมาธิให้แก่ตน แล้วมีสมาธิเป็นกำลัง สมาธิก็สามารถผลิตพลังจิตขึ้นมาได้ เมื่อผลิตพลังจิตขึ้นมาได้
ควบคุมจิตได้ มันก็จะไม่แส่แต่ไปในทางที่ผิด ควบคุมจิตได้

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าหากว่าเป็นความขัดแย้ง
หรือเป็นทางที่จะก่อให้เกิดทุกข์ เมื่อมีพลังจิตแล้วก็จะหลีกเลี่ยงได้ หมายความว่าไม่ทำไปตามอารมณ์ เพราะการที่จิตไม่เป็นสมาธินี่มันอารมณ์เกิดขึ้นเยอะ

เมื่ออารมณ์เกิดขึ้นเยอะ เราตามไม่ทัน มันก็พาเราไปในทางที่ผิด พระก็ผิด โยมก็ผิด ต่างคนต่างเดินทางผิด ในที่สุดมันก็เกิดความขัดแย้งกัน

ถ้าจิตใจควบคุมไม่ได้ พลังจิตไม่เพียงพอ ระหว่างครอบครัวก็ขัดแย้งกันได้ สังคมต่าง ๆ ก็แตกแยกกันได้ ประเทศชาติก็สามารถแตกแยกกันไปได้ โลกจะแตกแยกออกไปเป็นเยอะแยะต่อไป ก็สามารถเป็นไปได้ เพราะพลังจิตไม่เพียงพอ

เมื่อพลังจิตไม่เพียงพอแล้ว มันไม่มีอะไรที่จะมาค้ำประกันตัวของเราได้ เหมือนกันกับรถยนต์ รถยนต์ถ้ามันไม่มีเบรคแล้ว มันก็รับประกันอะไรไม่ได้ ชนโน่นชนนี่ เดี๋ยวตัวเองก็ตายตามไปด้วย
แล้วก็ทำให้คนอื่นตายด้วย นี่คือการที่ควบคุมรถไม่อยู่ เหมือนกันกับการควบคุมจิตใจ ไม่อยู่เช่นเดียวกัน”

สมเด็จพระญาณวชิโรดม
(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

คัดจากหนังสือ ๑๐๐ คำสอน พระพรหมมงคลญาณ
พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร หน้า 138-139

ร่วมแสดงความคิดเห็น