อังคุลิมาลปริตร: มนต์ศักดิ์สิทธิ์ช่วยคลอดบุตรง่าย ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

อังคุลิมาละปะริตตัง
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง
ชีวิตา  โวโรเปตา  เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ
 
คำแปล อังคุลิมาลปริตร
ดูก่อนน้องหญิง ตั้งแต่เราเกิดมาแล้วโดยชาติอริยะในร่มเงาของพระอริยเจ้า ยังไม่เคยรู้จักแกล้งปลงชีวิตสัตว์ให้ตายเลย ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์ของท่าน ฯ

ตำนานอังคุลิมาละปะริตตัง
พระปริตรนี้คัดมาจาก องคุลิมาลสูตร ในมัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก  มีเรื่องเล่าไว้ในอรรถกถาเฉพาะความตอนนี้ว่า  จำเดิมแต่พระองคุลิมาลมาบวชแล้ว ท่านลำบากด้วยการบิณฑบาตร เพราะประชาชนยังหวาดกลัวท่านอยู่มาก พอทราบว่าท่านมา ต่างคนต่างหนี บางพวกขึ้นเรือนปิดประตู  บางพวกหนีออกหลังบ้านไป  พวกที่หนีไม่ได้เพราะความชราหรือทุพพลภาพ  ก็นั่งผินหลังให้  พระเถระจึงไม่ได้อาหาร  เมื่อไม่ได้ภายนอกพระนคร  จึงเข้าไปภายในพระนคร  ด้วยคิดว่าในเมืองมีประชาชนหนาแน่น ทั้งสับสนปนคละ คงมีคนไม่รู้จักอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้นพอข่าวแพร่ไปว่าพระองคุลิมาลมาแล้ว ประชาชนก็แตกตื่นกันอีก ท่านได้พบหญิงมีครรภ์แก่คนหนึ่ง เจ็บครรภ์แต่คลอดไม่ได้ เนื่องด้วยครรภ์หลง (ครรภ์ขัด) เจ็บปวดครวญครางอยู่ ทำนองว่าหญิงผู้นี้มีครรภ์แก่จวนจะคลอดออกมาตักบาตร หรือ ออกมาด้วยธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ตกใจกลัวพระเถระ เพราะฤทธิ์แห่งความตกใจ เป็นเหตุให้เกิดกัมมัชวาตขึ้น แต่ทารกยังขัดคลอดไม่ได้ พระเถระเห็นแล้วให้รู้สึกสงสารเป็นกำลังใจ ใคร่จะช่วยให้พ้นจากทุกข์อันนั้น แต่มิรู้ที่จะช่วยอย่างไร ครั้นท่านกลับมาเวฬุวนาราม ได้เล่าเรื่องนี้ถวายพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งกราบทูลความในใจของท่านด้วย พระพุทธองค์จึงรับสั่งว่า “ถ้าเช่นนั้น เธอจงกลับไปที่หญิงคนนั้น แล้วจงทำสัจจิกิริยา กล่าวอย่างนี้ว่า “ยะโตหัง ภะคินิ ชาโต นาภิชานามิ สัจจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะแปลว่า ดูกรน้องหญิงจำเดิมแต่อาตมาเกิดแล้ว มิได้รู้สึกว่าจงใจทำลายชีวิตสัตว์เลย ด้วยความจริงนั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่เจ้า ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์ของเจ้าเถิด“ พระเถระฟังพระดำรัสแล้ว มีความข้องใจจึงกราบทูลว่า “จะมิเป็นมุสาวาทหรือพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ตั้งแต่เกิดมานี้ ฆ่าสัตว์มากมายนัก” จึงรับสั่งว่า “ถ้าอย่างนั้นจงกล่าวเสียใหม่ว่า…อริยาย ชาติยาชาโต…แปลว่า …เกิดแล้วในชาติอริยะ… (หมายความว่าตั้งแต่บวชมาแล้ว)”
พระเถระหายข้องใจ รับพระดำรัสแล้ว จึงกลับไปที่หญิงผู้นั้นเพื่อทำสัจจิกิริยา ชาวบ้านทราบความประสงค์ของท่าน ได้จัดการวงม่านให้หญิงผู้นั้นอยู่ในม่าน และถวายที่นั่งให้พระเถระนั่งอยู่นอกม่าน กับบอกให้หญิงนั้นรู้ตัวว่า บัดนี้พระเถระท่านมาเพื่อทำความสวัสดีให้

ครั้นแล้วพระเถระทำสัจจกิริยา ตามนับพระพุทธภาษิตที่ตรัสสอนนั้น พอท่านกล่าวจบ ทารกก็คลอด การคลอดนั้นง่าย คล้ายกับน้ำที่ไหลออกจากธัมกรก (หม้อกรองน้ำ) มีความสบายทั้งมารดาและบุตร ชาวบ้านเห็นเป็นความศักดิ์สิทธิ์ จึงสงวนที่นั่งที่ถวายให้พระเถระนั่งไว้ ไม่เอาไปใช้ในกิจการอื่น ๆ ถ้าหญิงคนไหนคลอดบุตรยาก ก็พามานั่งที่ที่นั่งนั้น คือใช้ที่นั่งนั้นเป็นที่ทำคลอด การคลอดก็สะดวกดี และมีความผาสุกทั้งมารดาและบุตร 

ส่วนผู้ที่มาไม่ได้ ก็ใช้น้ำล้างที่นั่งตัวนั้น แล้วนำน้ำนั้นไปรดศีรษะ การคลอดก็เรียบร้อย มีความสวัสดีทั้งมารดาและบุตร เมื่อที่นั่งตัวนั้นกลายเป็นที่นั่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว  ชาวบ้านก็ขยายเขตการช่วยเหลือออกไปถึงสัตว์เลี้ยงด้วย  ถ้าสัตว์ตัวไหนคลอดลูกยาก นำมาที่ที่นั่งตัวนั้นก็คลอดได้โดยสะดวก เพราะเหตุที่ผู้เคยแต่ทำลายชีวิตเขามากลายเป็นผู้ช่วยชุบชีวิตคนและสัตว์ไปเช่นนี้ เป็นผลให้ประชาชนหายกลัวพระเถระท่านก็บิณฑบาตรได้สะดวก ไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน  เมื่อท่านได้อาหารพอเพียงจิตก็ระงับ ทำให้บำเพ็ญสมณธรรมสะดวกขึ้น ในที่สุดท่านก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา.
 
อ้างอิงจาก หนังสือสวดมนต์แปล วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

ร่วมแสดงความคิดเห็น