ครูสาวบุก ปปช.เชียงราย ขอทราบผลการสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ

ครูสาวบุก ปปช.เชียงราย ขอทราบผลการสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ หลังร้องเรียนมากว่า 6 ปี

วันที่ 29 เม.ย. 67 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.เชียงราย ได้มี ครูกาหลง อดีตครูประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งปัจจุบันถูกย้ายไปสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งใหม่ที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการ ป.ป.ช.เชียงราย เพื่อขอทราบผลการดำเนินคดีและเร่งการตรวจสอบกรณีเคยไปยื่นขอให้ตรวจสอบว่ามีการทุจริตการใช้เงินค่าอาหารกลางวันและอื่น ๆ ในโรงเรียนที่ตนเองเคยสังกัดที่ อ.เวียงแก่น ตั้งแต่ต้นปี 2561 โดยการมาติดตามความคืบหน้าการสอบสวนของ ป.ป.ช. ในวันนี้ ได้มีนายกิตติศักดิ์ พิมสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงราย มารับทราบข้อร้องเรียนด้วยตนเอง

ครูกาหลง เผยว่า ตนเคยฟ้องร้องอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 และอดีตรองศึกษาธิการ จ.เชียงราย ว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเวันการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเดิมของตนว่ากระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ฯ กระทั่งปัจจุบันเวลาผ่านมานานพอสมควรแล้วแต่ตนก็ยังไม่ได้รับแจ้งผลการดำเนินคดีแต่อย่างใด รวมทั้งทาง ป.ป.ช.เชียงราย ก็ไม่ได้เรียกขอเอกสารสนับสนุนข้อกล่าวหา ตนจึงได้นำหลักฐานมามอบให้กับผู้อำนวยการ ป.ป.ช.เชียงราย อีกครั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินการ

ครูกาหลง กล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องตามเรื่องร้องเรียนติดต่อกันมาหลายปี จนตัวเองเคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยครู มีคำสั่งตัดเงินเดือนตน ฯลฯ แม้เรื่องจะผ่านไปแล้วและตนได้ถูกโยกย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอื่นแล้ว แต่ก็อยากให้ ป.ป.ช.ได้เร่งรัดคดีเช่นเดิมเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเด็กนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ และเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติตนของข้าราชการ และเป็นต้นแบบให้เด็กและเยาวชนด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ครูกาหลงเคยร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานตั้งแต่ต้นปี 2561 โดยมีเนื้อหาเป็นการใช้งบประมาณปี 2558-2560 ของโรงเรียนเดิมของตนว่า ได้มีการนำเงินค่าอาหารกลางวันไปจ่ายผิดประเภท มีการเบิกเงินเต็มจำนวนแต่หักออกไปเดือนละ 30,000 บาท แล้วนำไปสำรองจ่ายด้านอื่นๆ เช่น ค่ายานพาหนะเด็ก ค่าไฟฟ้า ฯลฯ ทั้งๆ ที่บางอย่างมีงบประมาณจากเขตพื้นที่การศึกษาให้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังสงสัยเรื่องการจัดซื้อชุดพละให้นักเรียน ที่ได้แค่เสื้อส่วนกางเกงต้องไปซื้อเอง ฯลฯ โดยมีหลักฐานเป็นเอกสารต่างๆ คลิปเสียง ฯลฯ ไปยื่นประกอบ ขณะที่ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว และบางคนเปลี่ยนสายงานไปแล้ว รวมทั้งหลายปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานเคยยกคำร้องของครูกาหลง โดยให้เหตุผลว่าผู้ถูกร้องไม่พบพฤติกรรมทุจริต เพียงแต่ไม่ดำเนินการตามขั้นตอนเท่านั้น แต่ครูกาหลงก็ได้อุทธรณ์และบางช่วงถึงขั้นยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เพื่อขอทราบข้อมูลการสอบสวนมาแล้ว กระทั่งปัจจุบันเวลาผ่านไปแล้วประมาณ 6 ปี แต่การตรวจสอบยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ร่วมแสดงความคิดเห็น