ผู้ว่า กกท. โต้ข่าวค่าลิขสิทธิ บอลโลกสูงถึง 1 พันล้านบาท

ผู้ว่า กกท. โต้ข่าวค่าลิขสิทธิ บอลโลกสูงถึง 1 พันล้านบาท ส่งเรื่องให้ กสทช. คาด 2 วันรู้ผล

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท. โต้ข่าวค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกมีมูลค่า 1 พันล้านบาท แต่ขอดูตัวเลขที่เหมาะสม เชื่อเอกสารจะแล้วเสร็จใน 1-2 วัน ก่อนส่งเรื่องให้ กสทช.

ความเคลื่อนไหวเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ยังคงเป็นประเด็นค้างคา แม้ว่าฟุตบอลโลกใกล้จะเปิดฉากเต็มทีแล้ว โดยล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถึงการประชุมที่มีขึ้นเพื่อหารือเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ได้รับการเปิดเผยว่า เป็นการประชุมภายในกับรองผู้ว่าการฯ เพื่อเตรียมเอกสารเข้าไปพูดคุยชี้แจงกับกสทช. และเอเยนต์ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจากสิงคโปร์

ผู้ว่าการกกท. กล่าวว่า ตัวเลขในข่าวที่ออกมากำลังอยู่ในช่วงการทำรายละเอียด มันยังไม่นิ่ง แต่การติดต่อซื้อครั้งนี้เป็นการซื้อเพื่อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งเดียว คือปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์ แต่ตัวเลขยังไม่นิ่งและกำลังอยู่ในการเจรจาพูดคุยกัน และดูแหล่งเงินที่จะนำมาใช้” ผู้ว่าการกกท. กล่าว

“ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยบอกว่าค่าลิขสิทธิ์มันอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ แค่ให้ลองเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในละแวกอาเซียนเช่นมาเลเซีย, อินโดนีเซีย ที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย ก็พยายามดูตัวเลขให้มันเหมาะสมที่สุด กำลังรอตัวเลขที่ชัดเจนแต่อาจจะไม่ถึง 1,000 ล้านบาทอย่างที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตามจะต้องมาดูแหล่งเงินว่าจะมีช่องทางใดบ้าง เพราะทางภาครัฐจะรับผิดชอบฝ่ายเดียวไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการมีกฎมัสต์แฮฟทำให้การเจรจามันยากขึ้นหรือไม่นั้น ดร.ก้องศักด กล่าวว่า มันแล้วแต่มุมมอง การมีกฎมัสต์แฮฟแค่ทำให้แน่ใจว่าประชาชนชาวไทยจะได้ดูทางฟรีทีวีแน่นอน แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป เพราะถ้าหากสุดท้ายเจรจาไม่ลงตัว ไม่สามารถซื้อลิขสิทธิ์มาได้ ไม่มีการถ่ายทอดใดๆ เลย รัฐบาลก็ไม่ได้ผิด เพราะกฎมัสต์แฮฟเป็นกรณีที่ว่าถ้ามีคนซื้อลิขสิทธิ์คนไทยจะต้องได้ดูทางฟรีทีวีเท่านั้น

เมื่อถามต่อว่าจะมีโอกาสที่ฟุตบอลโลก 2022 จะไม่มีถ่ายทอดสดหรือไม่นั้น ผู้ว่าการกกท. กล่าวว่า ทางเราจะพยายามให้มากที่สุด คงไม่อยากพูดว่าจะไม่มีถ่ายทอดสด แต่จะต้องหาวิธีการ คงต้องให้เอกชนเข้ามาร่วมมือจึงจะทำเรื่องนี้สำเร็จได้

นอกจากนี้ ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า กฎมัสต์แฮฟนั้นถือว่ามีเจตนาที่ดี ที่อยากให้คนได้ดูกีฬาสำหรับมวลมนุษยชาติ แต่ก็ต้องวิเคราะห์ว่ามีผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง กกท. คงไม่ขอก้าวล่วงเรื่องนี้ เราทำงานในข้อจำกัดต่างๆ ที่มี แต่ตอนนี้ก็มุ่งเป้าทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ส่วนที่ประชุมกสทช. ไม่ทราบว่าเคยมีการพูดคุยเพื่อยกเลิกกฎนี้หรือไม่แต่อย่างใด พร้อมปิดท้ายว่า การทำเอกสารต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน เพื่อส่งให้กสทช. นำไปพิจารณาเบื้องต้น แล้วค่อยเรียกเข้าไปชี้แจงต่อไป

ประเทศมาเลเซียซื้อลิขสิทธิ์ในราคา 32.5 ล้านริงกิต (261.50 ล้านบาท) แต่จะเป็นแพคเกจถ่ายทอดสด 27 แมตช์ รวมทั้งรอบชิงชนะเลิซ และถ่ายทอดเทปบันทึกการแข่งขัน 14 แมตช์ จากการแข่งขันทั้งหมด 64 แมตช์ มาเลเซียไม่ถ่ายทอดสดครบทุกแมตช์ จะเลือกถ่ายทอดสดแมตช์ของทีมใหญ่หรือแมตช์สำคัญที่แฟนบอลมาเลเซียสนใจ ถ่ายทอดสดโดยองค์กรวิทยุและโทรทัศน์แห่งมาเลเซีย
ด้านเวียดนามซื้อลิขสิทธิ์มา 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (569 ล้านบาท) ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์วีทีวี ซึ่งเป็นสถานีของรัฐ ครบทุกแมตช์

ร่วมแสดงความคิดเห็น