“เมธาสิทธิ์” ผงาดแชมป์เอเชียสมัยที่ 3 รายการ ดาวน์ฮิลประชาชนชาย

“เมธาสิทธิ์” ผงาดแชมป์เอเชียสมัยที่ 3 รายการ ดาวน์ฮิลประชาชนชายที่มาเลย์ “วิภาวี” พ่ายอิเหนา 1 วิ. ได้เหรียญเงิน

“เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์” นักปั่นทีมชาติไทยผงาดคว้าแชมป์ดาวน์ฮิล รุ่นประชาชนชาย ในศึกจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศมาเลเซีย นับเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 3 หลังจากเคยได้แชมป์มาแล้วในปี 2019 และ 2020 ส่วน “วิภาวี ดีคาบาเลส” เสียจังหวะในรอบชิงชนะเลิศพ่ายนักปั่นอินโดนีเซียไปแค่ 1 วินาทีเศษ ได้เพียงเหรียญเงินในรุ่นประชาชนหญิง เช่นเดียวกับ “ปธากรณ์ สมชัยธนาวัฒน์” ซึ่งได้เหรียญเงินรุ่นเยาวชนชาย ด้าน “เสธ.หมึก” เผยนักปั่นไทยทำผลงานน่าพอใจ และถือเป็นการหาข้อมูลคู่แข่งเพื่อเตรียมทีมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า โดยทั้ง “เมธาสิทธิ์” และ “วิภาวี” ยังมีโปรแกรมลงแข่งขันรายการอิลิมิเนเตอร์ในวันที่ 12 พ.ค.67

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จาการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทยเดินทางไปสู้ศึกจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2024 ระหว่างวันที่ 8-12 พฤษภาคม ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ได้รับรายงานจาก น.ต.สุภัทร ศรีไสว ผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยว่านักปั่นไทยมีโปรแกรมลงแข่งขันรายการดาวน์ฮิล ในรุ่นประชาชนชาย-หญิง และรุ่นเยาวชนชายหญิง ผลปรากฏว่าทัพนักปั่นไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับเหรียทองได้จาก “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ในรุ่นประชาชนชาย ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์เก่า 2 สมัย ในปี 2019 ที่ประเทศเลบานอน และปี 2020 ที่จังหวัดเชียงราย โดยในสนามนี้มีนักปั่นลงแข่งขันทั้งหมด 19 คนจาก 8 ชาติ ระยะทาง 900 เมตร ปรากฏว่าเมธาสิทธิ์ในรอบจัดอันดับ เมธาสิทธิ์ทำเวลาเป็นที่ 2 แต่ในรอบชิงชนะเลิศ “เจ้าเบส” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมผงาดคว้าแชมป์มาครอง ด้วยเวลา 1.09.655 นาที ส่งผลให้เมธาสิทธิ์คว้าแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 3 ส่วนเหรียญเงินเป็นของ เจียง เซิง ซาน นักปั่นทีมชาติไต้หวันทำเวลาได้ 1.11.655 นาที ห่างจากเมธาสิทธิ์ 2 วินาที, เหรียญทองแดง แรนดี้ วาเรร่า ซานจาย่า นักปั่นทีมชาติอินโดนีเซีย เวลา 1.11.782 นาที ด้าน นายศรัณวิทย์ รัศมี นักปั่นทีมชาติไทยอีกคนได้อันดับ 9 เวลา 1.15.797 นาที

“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ส่วนเหรียญเงิน ได้จาก “เจ้าเพ็ชร์” จ.อ.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส อดีตแชมป์เอเชีย 9 สมัย ในรุ่นประชาชนหญิง เกมการแข่งขันวิภาวีเกิดเสียจังหวะไปเพียงเล็กน้อยจึงเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 เวลา 1.20.603 นาที ได้เหรียญเงิน ส่วนแชมป์เป็นของ มิลาตุล คากิมา นักปั่นทีมชาติอินฌโดนีเซีย เวลา 1.18.964 นาที เฉือนชนะวิภาวีไปแค่ 1.639 วินาที และเหรียญทองแดง ริสก้า อเมเลีย ออกุสตินา จากอินโดนีเซีย เวลา 1.21.033 นาที ขณะที่ น.ส.น.ส.กนกรัตน์ ฤทธิเดช ได้อันดับ 8 เวลา 1.26.882 นาที อีก 1 เหรียญเงินได้จาก “เอตเ” นายปธากรณ์ สมชัยธนาวัฒน์ ในรุ่นเยาวชนชาย ซึ่งทำเวลา 1.14.983 นาที ส่วนเหรียญทองเป็นของ แพนดู ซาทริโอ เปอร์คาซา จากอินโดนีเซีย เวลา 1.12.483 นาที และเหรียญทองแดง หลิว จือ จี้ จากไต้หวัน เวลา 1.18.271 นาที ด้านรุ่นเยาวชนหญิง น.ส.นาดา บินบูฮัมหมัด ได้อันดับ 5 เวลา 2.21.231 นาที

พลเอกเดชา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับเมธาสิทธิ์ที่ได้แชมป์เอเชียมาครองเป็นสมัยที่ 3 แต่เสียดายที่วิภาวี เสียจังหวะไปเล็กน้อยในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ได้เพียงเหรียญเงินในรุ่นประชาชนหญิง ขณะที่ปธากรณ์ ที่ได้เหรียยเงินในรุ่นเยาวชนชาย ก็ทำผลงานได้น่าพอใจ ซึ่งจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นการหาข้อมูลคู่แข่งเพื่อเตรียมทีมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า โดยคู่แข่งสำคัญก็คือนักกีฬาจากประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม นักปั่นไทยเรายังมีลุ้นในการแข่งขันรายการอิลิมิเนเตอร์ในวันที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งทั้งเมธาสิทธิ์ และวิภาวี ก็จะลงแข่งขันด้วย เริ่มรอบจัดอันดับเวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 11.30 น. ในประเทศไทย ต้องขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักปั่นไทยให้คว้าเหรียญรางวัลเพิ่มให้ได้ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยต่อไป

ด้าน เมธาสิทธิ์ กล่าวว่า “ขอขอบพระคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่ส่งพวกเรายนักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทยมาแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียในครั้งนี้ ซึ่งพวกเราทำผลงานมาได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน สำหรับสนามแข่งขันมีความท้าทายมากเนื่องจากระยะทางค่อนข้างสั้น ใช้เวลาปั่นแค่ 1 นาทีเศษ ทุกคนก็เอาชนะกันแค่เพียงเสี้ยววินาที และขอฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทย ช่วยส่งกำลังใจให้นักปั่นไทยด้วย พวกเราทุกคนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น