อคส. เตรียมเปิดประมูล “ข้าว 10 ปี” 15,000 ตันกลางเดือน พ.ค.นี้

นายกฤษณรักษ์ ใจดี รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ในฐานะรักษาการ ผอ.อคส. เปิดเผยว่า หลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพาณิชย์ ได้ไปตรวจสอบข้าวในสต็อกโครงการรับจำนำข้าวที่โกดัง 2 แห่งใน จ.สุรินทร์ และได้ทำการพิสูจน์กินข้าว พบว่าข้าวยังสามารถกินได้ โดยมีเจ้าของโรงสี ผู้ส่งออก และสื่อมวลชน ร่วมสังเกตุการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจ ไม่ให้เกิดข้อกังขาว่าจำนวนข้าวมีอยู่ตรงตามที่แจ้งไว้ และตรงตามประเภทที่เก็บรักษาคือเป็นข้าวหอมมะลิ 100 % ไม่มีการสอดไส้ข้าวอื่นในกองข้าว โดยมีการให้เซอร์เวย์เยอร์ สุ่มตรวจลึกไป 15 ชั้น

อคส.เตรียมประกาศเปิดประมูลระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล ทั้ง 2 โกดัง ที่มีจำนวน 15,000 ตัน หลังพบว่าเป็นข้าวหอมมะลิตามมาตรฐานที่สามารถเปิดประมูลได้ คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ ถึงต้นเดือน มิถุนายน นี้
สำหรับขั้นตอนการเปิดประมูล จะเป็นการประมูลเป็นการขายโดยทั่วไป เพื่อบริโภคและส่งออก โดยจะเริ่มจากการประกาศประมูลข้าวแบบ TOR เป็นเวลา 1 วัน ให้ผู้สนใจสอบถาม ก่อนยื่นซองคุณสมบัติ เปิดคลังให้ผู้ที่สนใจไปดูตัวอย่างข้าวเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นให้ยื่นซองคุณสมบัติของผู้ประมูล 1 วัน ทาง อคส.จะตรวจสอบคุณสมบัติ ประมาณ 3 วัน ประกาศรายชื่อ 1 วัน และเปิดซองเสนอราคาที่ผู้สนใจยื่นซอง ก่อนสรุปผลการยื่นซองอีก 3 วัน วันรุ่งขึ้นก็ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล โดยให้เวลา 15 วันมาเซ็นต์สัญญา คาดว่าจะใช้เวลาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน


รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เปิดเผยว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพข้าวของ อคส.ไม่ได้กำหนดให้มีองค์การอาหารและยา หรือ นักโภชนาการ มาตรวจสอบก่อนประมูล เพราะตลอดการเก็บรักษาในโกดัง อคส.มีมาตรการในการตรวจสอบทุก 6 เดือนทั้งปริมาณข้าวและการเก็บรักษา ซึ่งจะต้องรมยาในการรักษาคุณภาพข้าว โดยการรมยา จะไม่อันตรายต่อสุขภาพเพราะสารรมยาจะสลายไปภายใน 10-15 วัน


นายกฤษณรักษ์ เปิดเผยว่า อคส.ไม่ได้มีหน้าที่ในการส่งตัวอย่างข้าวไปตรวจคุณภาพที่องค์การอาหารและยา อย่างที่มีการเรียกร้อง แต่เพื่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค จะมีขั้นตอนในการตรวจสอบโดยทางผู้ส่งออกข้าว หรือผู้ประมูลสามารถไปตรวจเพื่อความมั่นใจก่อนยื่นซองประมูลได้ และเชื่อมั่นว่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ หรือผู้บริโภค ทางผู้ส่งออกจะต้องนำข้าวไปปรับปรุงให้ได้คุณภาพก่อนขายอย่างแน่นอน และข้าวเหล่านี้เชื่อว่าจะถูกส่งออกขายไปต่างประเทศ เพราะตลาดข้าวแอฟริกา จะนิยมข้าวเก่า และมีสีเหลือง อย่างในตะวันออกกลาง ซึ่งไม่ชอบข้าวขาวอย่างทางเอเชีย โดยคาดว่าราคาประมูลน่าจะมีราคากว่า 18 บาท ต่อกิโลกรัม คาดว่าจะได้งบประมาณกลับคืนสู่รัฐ ไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท
ส่วนกรณีมีข้อกังวลว่าจะมีการวนข้าว 10 ปี มาขายให้คนไทยกิน นั้น เชื่อว่าไม่มีการนำมาขายคนไทย เพราะคนไทยไม่ทานข้าวเก่า และทาง อคส.พร้อมให้มีการตรวจสอบในทุกขั้นตอ

ร่วมแสดงความคิดเห็น