เร่งระบายน้ำ และช่วยเหลือประชาชน

ปภ.รายงานยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งระบายน้ำและช่วยเหลือประชาชน

วันที่ 29 ก.ย. 65 เวลา 14.00 น. ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ขอนแก่น ชัยภูมิ ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 45 อำเภอ 205 ตำบล 918 หมู่บ้าน ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ฝนตกในหลายพื้นที่ช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 22 – 28 ก.ย. 65 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวม 20 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ นครราชสีมา มุกดาหาร ยโสธร หนองบัวลำภู ระยอง ปราจีนบุรี สมุทรปราการ รวม 72 อำเภอ 157 ตำบล 435 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3,338 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 10 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ขอนแก่น ชัยภูมิ ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู และปราจีนบุรี รวม 27 อำเภอ 69 ตำบล 209 หมู่บ้าน แยกเป็น

  1. ลำพูน เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลี้ อำเภอบ้านธิ อำเภอทุ่งหัวช้าง และอำเภอบ้านโฮ่ง รวม 8 ตำบล 29 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
  2. สุโขทัย เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอศรีสำโรง รวม 7 ตำบล 12 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  3. ตาก เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านตาก และอำเภอสามเงา รวม 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 244 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  4. เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มสัก รวม 6 ตำบล 42 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 50 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  5. พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง และอำเภอนครไทย รวม 10 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 78 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  6. ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น รวม 5 ตำบล 5 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
  7. ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอเนินสง่า อำเภอจัตุรัส อำเภอเกษตรสมบูรณ์ และอำเภอบ้านเขว้า รวม 9 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  8. ศรีสะเกษ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอภูสิงห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 16 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,301 ครัวเรือน อพยพประชาชน 176 ครัวเรือน 704 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 12 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  9. หนองบัวลำภู เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  10. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 61 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 ส.ค. – 28 ก.ย.65 ได้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง รวม 9 จังหวัด ได้แก่ ตาก ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงหืบุรี ปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 18 อำเภอ 136 ตำบล 709 หมู่บ้าน แยกเป็น

  1. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา และอำเภอบ้านตาก รวม 4 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 342 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  2. อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอพิบูลมังสาหาร รวม 10 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,026 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  3. พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 88 ตำบล 535 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,366 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  4. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง รวม 13 ตำบล 40 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 819 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  5. ปทุมธานี เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และจะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784”

ร่วมแสดงความคิดเห็น