เปิดลงทะเบียนรับเบี้ยสูงวัย ปีงบฯ 67 เริ่ม ต.ค.-พ.ย. นี้

เปิดลงทะเบียนรับเบี้ยสูงวัย ปีงบฯ 67 เริ่ม ต.ค.-พ.ย. นี้ คาดงบพุ่งจ่อแสนล้านบาท

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยได้มอบหมายสั่งการแจ้งให้ทุกจังหวัดเน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เร่งดำเนินการรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และยังไม่เคยลงทะเบียนยื่นคำขอ เพื่อแสดงความจำนงขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ

โดยในปีนี้ จะเปิดรับลงทะเบียน 2 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่ตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 และช่วงที่สองตั้งแต่
มกราคม-กันยายน 2566 ซึ่งผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เกิดก่อน 2 กันยายน 2507) รวมถึงผู้สูงอายุที่ย้ายภูมิลำเนาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ยังไม่ได้ยื่นคำขอลงทะเบียน ให้ยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเอง หรือ อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่น เป็นผู้ยื่นคำขอลงทะเบียนฯ แทนได้

สำหรับผู้ต้องขังหรือจำคุกอยู่ในเรือนจำ ทัณฑสถานหรือสถานที่คุมขังของกรมราชทัณฑ์ ให้มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เจ้าหน้าที่ที่ผู้บัญชาการเรือนจำ มอบหมาย หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการ ยื่นต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิต้องมีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาในเขต อบต. หรือ เทศบาล ตามทะเบียนบ้านและไม่เป็นผู้ที่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใด จากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้านเทศบาลเมืองแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ประชาสัมพันธ์เชิญผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
(เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507) ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาลงทะเบียน โดยเตรียมหลักฐานที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน สมุดเงินฝากธนาคาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 053-498621 ต่อ 204 งานพัฒนาชุมชน สำนักปลัดเทศบาลเมืองแม่โจ้

ผู้สูงอายุสามารถแจ้งความประสงค์วิธีการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้วิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้นดังนี้

1. รับเงินสดด้วยตนเอง หรือ 2. รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ หรือ 3. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามตนเอง หรือ 4 โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ
อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ. ) แจ้งเพิ่มเติมว่า กรณีผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่แล้ว แต่มีการย้ายภูมิลำเนาไปยังเขต อบต. หรือ เทศบาล อื่น ให้ลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีภูมิลำเนาในเขต อบต. หรือ เทศบาล แห่งใหม่ภายในพฤศจิกายน 2566 นี้

หากไม่ได้ไปลงทะเบียนตามกำหนด แต่ลงทะเบียนยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพในภายหลังที่กำหนด ทาง อปท.แห่งใหม่จะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้ในปีงบประมาณถัดไป (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568) สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ณ บอร์ดประชาสัมพันธ์ของ อบต. หรือ เทศบาล ที่ไปลงทะเบียนและสามารถตรวจสอบบัญชีรายชื่อที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ในวันที่ 29 กันยายน 2566 หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต. หรือเทศบาล ในพื้นที่เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ที่จะจ่ายให้ทุกเดือนตลอดชีวิตนั้น ช่วงอายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาท/เดือน 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาท/เดือน โดยจะจ่าย
ให้ในเดือนถัดจากวันเกิด 1 เดือนเกิด 2-31 ตุลาคม 2506 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566 เกิด 2-31 ธันวาคม 2506 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567 เกิด 2-31 มีนาคม 2507 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนเมษายน 2567 เกิด 2-30 มิถุนายน 2507 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2567
หากใครมีอายุเกิน 60 ปีไปแล้ว แต่ไม่เคยมาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ ก็สามารถมาลงทะเบียนในช่วงเดือน
ตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม-กันยายน 2566 ได้เลย เพื่อรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2567 โดยจะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2566 (ไม่มีการจ่ายย้อนหลัง)อายุเกิน 60 ปี แต่เพิ่งมาลงทะเบียนครั้งแรก จะได้รับเงินเมื่อไหร่

“หากมีอายุเกิน 60 ปีไปแล้ว แต่ไม่เคยมาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ สามารถมาลงทะเบียนในช่วง ต.ค-พ.ย.นี้ และช่วง ม.ค.-ก.ย.2566 เพื่อรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2567 โดยจะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2566 ไม่มีการจ่ายย้อนหลัง ในงบประมาณปี 2566 รัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็กในวัยเรียน ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อสวัสดิการต่างๆ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ งบประมาณปี 2566 ตั้งไว้ 87,580 ล้านบาท มีเป้าหมาย 11.03 ล้านคน กลุ่มผู้ด้อยโอกาสงบประมาณปี 2566 ตั้งไว้ 35,515 ล้านบาท มีเป้าหมายจำนวน 13.45 ล้านคน เป็นต้น

ทั้งนี้งบประมาณเพื่อจัดสรรให้ อปท. เป็นเบี้ยสูงวัยนั้น มีอัตราเพิ่มต่อเนื่อง เพราะ ประเทศไทย ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบ คาดว่า ภายใน 1-2 ปีนั้น งบประมาณส่วนนี้จะพุ่งทยานเป็นแสนล้านบาท ซึ่งเป็นภารกิจ ความรับผิดชอบของรัฐฯ ที่จะต้องจัดสรรงบ ผ่าน อปท. เพื่อให้กลุ่มผู้สูงอายุอยู่แล้ว “ด้านกองสวัสดิการสังคม เทศบาลตำบลแม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บริการรับขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ เพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้กับผู้สูงอายุรายใหม่ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว และผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เป็นผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2506-1 กันยายน 2507) ณ ศาลาอเนกประสงค์หมู่ที่ 5 บ้านหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง ลำพูน ซึ่งการดำเนินการของแต่ละ อปท. ขึ้นอยู่กับแผนงาน นโยบายผู้บริหร ในการอำนวยความสะดวกประชาชนตามเหมาะสม

ร่วมแสดงความคิดเห็น