เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานฟอนซ่า เตรียมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. และ สำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบการทำงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ใน 3 ประเด็น ทั้งเรื่อง ผลประโยชน์ทับซ้อน การปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และ การใช้อำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายเงินว่าเป็นไปตามกฏหมายหรือไม่ ในสัปดาห์หน้า หลังจาก ส่งเรื่องให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ไปเรียบร้อยแล้ว
ตามที่ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือ ฟอนซ่า ซึ่งมี “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เป็นประธาน ได้มีการหารือร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงปัญหา ที่สมาคมกีฬาได้รับผลกระทบจาก การปฎิบัติงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ห้องประชุม 217 ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ไปเมื่อ 22 ก.พ. 66
โดย พล.ต.อินทรัตน์ ระบุในวันนั้นว่า สมาคมกีฬามีปัญหาในการได้รับการจัดสรรงบประมาณ มานานแล้ว แม้ตนจะต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ติดตามเรื่องนี้อยู่ตลอด ได้รับทราบว่า หลายสมาคมกีฬา ที่ต้องใช้งบประมาณในการพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องใช้งบประมาณในการคัดเลือกเพื่อไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 หลายสมาคมกีฬาไม่สามารถส่งนักกีฬาเข้ารับการคัดเลือกได้ เนื่องจากได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ จึงได้มีการนัดประชุมกับคณะกรรมการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
- “ฟอนซ่า”ยื่นหนังสือถึงผู้ว่ากกท.ร้องเร่งแก้ปัญหาเบิก-จ่ายเงินชี้กระทบสมาคมกีฬาเตรียมทีมอลป.- แคมป์ยกเหล็กวางระเบียบเข้มยันส่งชุดใหญ่เก็บแต้มอลป.ศึกชิงแชมป์โลก
- บีไซด์ สปอร์ตระเบิดศึกเบสบอล”อิบารากิ แอสโทร พาเน็ต ชิงชนะเลิศประเทศไทยครั้งที่ 1″
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พูดคุยถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก่อนได้ข้อสรุปว่า จะส่งเรื่องให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการทำงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ใน 3 ประเด็น ทั้งเรื่อง ผลประโยชน์ทับซ้อน การปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และ การใช้อำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายเงินว่าเป็นไปตามกฏหมายหรือไม่ นั้น
ล่าสุด พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานฟอนซ่า กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารฟอนซ่า ได้ดำเนินการส่งเรื่องไปให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้ไป เมื่อคณะกรรมการบริหารฟอนซ่า ได้ร่างหนังสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ยื่นเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักนายกรัฐมนตรี ในลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะยื่นให้ตรวจสอบได้ในช่วงสัปดาห์หน้า
ร่วมแสดงความคิดเห็น