ข่าวปลอม! แอปเป๋าตัง ให้ยืม 100,000 บาท

ข่าวปลอม!แอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้ยืม 100,000 บาท สามารถถอนเงินจาก ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วันที่ 9 ส.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการโฆษณาด้านการเงินปรากฎในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้ยืม 100,000 บาท สามารถถอนเงินจาก ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารกรุงไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการโฆษณาโดยระบุว่าแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้ยืม 100,000 บาท สามารถถอนเงินจาก ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางธนาคารกรุงไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าธนาคารไม่มีนโยบายให้สินเชื่อ หรือยืมเงินสดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแต่อย่างใด
แอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินระบบเปิด สามารถใช้บริการแม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ( E-Wallet) รองรับการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ บริการกระเป๋าเงินอิเลทรอนิกส์ของภาครัฐ (G-Wallet) รองรับการทำนโยบายของภาครัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม.33 เรารักกัน บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) ตรวจเช็กสิทธิด้านสุขภาพผ่านเป๋าตัง บริการด้านการลงทุนพันธบัตรของรัฐผ่านวอลเล็ต สบม. รวมถึงบริการเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีกยศ.สะดวก และรวดเร็วสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/th/personal/detail/201

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนให้งดแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จไปในช่องทางสื่อโซเชียลต่างๆ และเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกสื่อโซเชียลโพสต์ข้อมูลหลอกลวง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ธนาคารกรุงไทย สามารถตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องได้ที่เว็บไซต์ www.krungthai.com เฟซบุ๊ก Krungthai Care หรือโทร Contact Center โทร 02-111-1111

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารไม่มีนโยบายให้สินเชื่อ หรือยืมเงินสดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น