ชาวบ้านกว่า 6 หมู่บ้าน ระทมหลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มยับกว่า 380 หลังคา

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านฐานพัฒนา ม.16 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อร่วมสำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมาจนสร้างความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเสียหายจากลมพายุได้แก่ ม.8 ม.9 ม.11 ม.13 ม.14 และม.16 นอกจากนี้โรงเรียนบ้านแวนโค้งในส่วนของอาคารเด็กอนุบาลได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกันซึ่งลมพายุได้พัดกระเบื้องพร้อมไม้โครงหลังคาพัดปลิวไปคนละทิศคนละทาง อีกทั้งยังมีต้นไม้ขาดครึ่งและศาลาพักร้อนในโรงเรียนปลิวเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งในส่วนของบ้านเรือนชาวบ้านได้พบว่าบ้านของนายอภิชาติ วงศ์แก้ว อายุ 43 ปี ได้ยุบลงทั้งหลังซึ่งเกิดจากลมพายุด้วยเช่นกัน ล่าสุดทางนายรัตน์ คำใส นายกเทศมนตรีตำบลฝายกวาง พร้อมด้วยว่าที่ร.ต.สมสิฎฎ์ ชาญชัย ปลัดเทศบาลและเจ้าหน้าที่ปภ.ทต.ฝายกวาง ได้ลงพื้นที่เพื่อเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้แล้ว

นายปรีชา โสภาเคน ผอ.รร.บ้านแวนโค้ง ได้กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียนตอนนี้จากการสำรวจพบความเสียหายทั้งหมด 9 แห่งด้วยกันโดยหนักสุดเห็นจะเป็นอาคารของเด็กอนุบาลเพราะลมพายุได้ตีเอากระเบื้องพร้อมโครงหลังคาที่เป็นไม้กระจัดกระจายออกไปนอกจากนี้ยังมีโรงจอดรถ อาคารบ้านพักครู ศาลาพักร้อนของโรงเรียนที่ถูกลมพายุซัดปลิวทั้งหลังรวมทั้งต้นไม้หลายชนิดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้ตนเองได้โทรศัพท์แจ้งยังหย่วยต้นสังกัดให้เข้ามาประเมินและทำการช่วยเหลือต่อไป

น.ส.กัญญพัชร รสแก้ว ชาวบ้านรายหนึ่งทีบ้านได้รับความเสียหายได้เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุเมื่อคืนประมาณ 1 ทุ่มช่วยนั้นตนเองกำลังอาบน้ำและได้ยินเสียงพายุก่อนจะมีลูกเห็บตกมากระทบหลังคาบ้าน หลังจากนั้นตนเองและครอบครัวซึ่งอยู่ด้วยกัน 4 คนก็ได้รีบวิ่งมาหลบใต้ถุนบ้านอีกชั้นซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของหมู่บ้านที่ตนไม่เคยเห็นพายุรุนแรงขนาดนี้มาก่อนในชีวิต นายอภิชาต วงศ์แก้ว เจ้าของบ้านที่ล้มทั้งหลังได้เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุนั้นตนเองได้เดินไปซื้อของที่ร้านค้าซึ่งบ้านหลังนี้ตนเองนอนคนเดียวส่วนภรรยานอนอีกหลัง พอพายุสงบลงตนเองได้กลับมาดูบ้านและเข่าแทบทรุดหลังเห็นบ้านตัวเองล้มทั้งหลังซึ่งหลังจากนี้ตนเองคงจะขอให้หน่วยงานเข้ามาดูแลกันต่อไป

ด้านนายรัตน์ คำใส กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ในตอนนี้ทาง ทต.ฝายกวางได้ลงพื้นที่เพื่อเร่งสำรวจความเสียหายแล้วซึ่งตอนนี้ทีได้ทำการสำรวจไปแล้วนั้นพบว่ามีพื้นที่ความเสียหายทั้งหมด 6 หมู่บ้าน และส่วนยางพาราของชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งซึ่งต้องทำการสำรวจอย่างละเอียดกันต่อไป หลังจากนี้เมื่อทางหน่วยงานของตนได้ข้อมูลครบแล้วจะได้ให้การช่วยเหลือในเรื่องของกระเบื้องมุงหลังคากันต่อไปด้วยเช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น