ผวจ.เชียงใหม่ เน้นย้ำประชาชน ห้ามเผาขยะทุกชนิดในที่โล่ง พร้อมนำร่องใช้ Application AirCMI

วันนี้ (15 ม.ค. 63) ที่ ห้องประชุมศูนย์อำนวยการสั่งการฯ ฝุ่นควันจังหวัดเชียงใหม่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวมาตรการตามคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลดปัญหาฝุ่นควันฯ รวมถึงแถลงระบบบริหารจัดการปัญหาฝุ่นควัน และ Application (AirCMI) พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันของทั้ง 25 อำเภอ ผ่านระบบวีดิโอ คอนเฟอร์เร้นซ์ โดยมีหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการแถลงครั้งนี้ เพื่อทราบปัญหาและมาตรการแก้ไข โดยเฉพาะอำเภอที่ปรากฏสถานการณ์ไฟป่า ตาม Hotspot ที่ปรากฏในแต่ละวัน

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงนี้เน้นย้ำในเรื่องของการควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิด โดยในเขตพื้นที่ชุมชน ห้ามมิให้มีการกำจัดวัชพืช ขยะ หรือสิ่งอื่นใด โดยการเผาอย่างเด็ดขาด ในส่วนของพื้นที่การเกษตร หากมีความจำเป็นต้องการเผาวัชพืชในพื้นที่ ต้องมีการขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองนั้น ๆ เพื่อแจ้งต่อนายอำเภอ ก่อนดำเนินการเผาทุกครั้ง

ขณะเดียวกัน สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. ได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรมอนามัย และกรมประชาสัมพันธ์ จัดทำระบบบริหารจัดการปัญหาฝุ่นควัน และแอปพลิเคชัน (AirCMI) ซึ่งนำร่องในพื้นที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยครอบคลุมทั่วทั้ง 25 อำเภอ เพื่อสร้างการรับรู้ และความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ให้ทราบแนวทางการป้องกันสุขภาพจากภาวะคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ และยังเป็นต้นแบบในการใช้ระบบสารสนเทศบริหารจัดการปัญหาฝุ่นควันอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศต่อไป

ด้านการรณรงค์ลดต้นเหตุค่า PM2.5 ในเขตเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตชุมชนเมือง ของอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ จัดกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ และกำหนดให้มีการจัดพื้นที่ปลอดภัยจากฝุ่นควัน (Safety Zone) ในสถานประกอบการสาธารณสุขทุกแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลประจำจังหวัดและอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง จำนวน 254 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนในสังกัด และสำนักงาน/ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จำนวน 280 แห่ง ด้านภาคเอกชน ได้เชิญชวนร้านอาหาร ร้านกาแฟ และศูนย์การค้า ซึ่งขณะนี้มีการตอบรับเข้าร่วมโครงการแล้ว 21 แห่ง อยู่ระหว่างการดำเนินการออกตรวจประเมินสถานที่ หากผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จะติดสติกเกอร์เพื่อแสดงให้ประชาชนทราบต่อไป ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดส่งแผนการบริหารจัดการหน้ากาก N95 สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่ม ได้แก่ โรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ให้กับ อปท.นำไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดหาและเตรียมพร้อมแจกจ่ายให้แก่ประชาชนต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังได้เน้นย้ำให้ทั้ง 25 อำเภอ รวมถึงข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ทุกสังกัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสอดส่องดูแลเอาใจใส่ และร่วมชี้แจงให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรวบรวมและรายงานมายังศูนย์อำนวยการฝุ่นควันระดับจังหวัดให้ทราบทุกวัน และหากพบเห็นการกระทำผิด ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุและจับกุมผู้กระทำผิด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า รวมทั้งการเกิดปัญหามลพิษฝุ่นควันในเชียงใหม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้เมื่อพบการกระทำความผิดดังกล่าว สำหรับผู้ที่พบเบาะแสและพบการเผาทั้งในที่โล่งหรือพื้นที่ป่า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่หมายเลข 053-232019 และ 053-112725 หรือสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น