‘โดรน’ ฝีมือจีน หนุนการเกษตรไทย พัฒนาสู่ความทันสมัย

กรุงเทพฯ, 14 ส.ค. (ซินหัว) – ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “โดรนเพื่อการเกษตร” กลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่มีบทบาทสำคัญต่อการผลิตทางการเกษตร ซึ่งโดรนประเภทดังกล่าวที่ผลิตโดยจีน ได้โบยบินสู่มือเกษตรกรในหลายประเทศ ช่วยให้การผลิตมีประสิทธิภาพ ความสะดวก และความปลอดภัยยิ่งขึ้น

นิกร วัย 43 ปี อดีตพนักงานประจำร้านค้าปลอดภาษีในกรุงเทพฯ ผู้ผันตัวมาทำอาชีพเกษตรกรกับภรรยาที่บ้านเกิด อย่างจังหวัดร้อยเอ็ด หลังเผชิญผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่ ดัดแปลงทักษะการถ่ายภาพด้วยโดรนที่มีอยู่เดิม สู่การเป็นนักบินโดรนเพื่อฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ปุ๋ย และฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต

“เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยอยากทำสวนทำไร่อยู่ต่างจังหวัดกันเท่าไร ทำให้หาคนงานยาก การใช้โดรนจะช่วยลดปริมาณงานและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนฉีดยาฆ่แมลงด้วยคนงานจะได้วันละไม่เกิน 10 ไร่ แต่พอใช้โดรนจะฉีดได้วันละ 40-50 ไร่” นิกรกล่าว

นิกรร่วมกับเพื่อนเกษตรกรอีกกว่า 20 คน เปิดให้บริการบินโดรนฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ปลูกข้าวเป็นหลัก รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยแต่ละวันเขาทำงานราว 6 ชั่วโมง เดือนหนึ่งทำงาน 25 วัน ซึ่งรายได้ไม่เพียงสูงกว่าตอนเป็นพนักงานอยู่กรุงเทพฯ แต่ยังมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพิ่มขึ้นด้วย

ลัดฟ้าข้ามมายังภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร อรุณ เจ้าของสวนทุเรียนขนาด 30 ไร่ หันมาใช้โดรนฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเช่นกัน หลังจากกลุ่มคนงานชาวลาวไม่สามารถกลับมาทำงานได้ เพราะเกิดโรคระบาดใหญ่ โดยอรุณ เผยว่า การใช้โดรนได้ทั้งประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรูพืช และความปลอดภัยต่อสุขภาพ

อรุณ เล่าว่า เมื่อก่อนคนงานจะเดินฉีดพ่นยาฆ่าแมลงตามต้นไม้ ซึ่งน้ำยาฆ่าแมลงจะตกใส่ตัวคนงานและยังลอยค้างอยู่ในอากาศจนเป็นอันตรายหากสูดดมเข้าร่างกาย แต่โดรนเข้ามาเปลี่ยนแปลงให้การทำงานง่ายขึ้นมาก ทั้งยังประหยัดเงิน ปลอดภัยกว่าเดิม ไม่ต้องเสี่ยงรับสารพิษจากน้ำยาฆ่าแมลง

การใช้โดรนเพื่อการเกษตรได้ช่วยประหยัดต้นทุน การปลูกทุเรียนของอรุณอย่างมาก โดยเขาคำนวณให้ฟังว่าปกติการจ้างคนงานฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแต่ละครั้ง ต้องจ่ายค่าจ้าง 6,000 บาท ซึ่งแต่ละปีต้องฉีดอย่างน้อย 50 ครั้ง พอหันมาใช้โดรนเท่ากับประหยัดเงินได้ปีละ 3 แสนบาท

ทั้งนี้ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์การเกษตรสมัยใหม่ เป็นที่ต้องการในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยหลายปัจจัย อย่างโครงสร้างเกษตรกรเปลี่ยนแปลง ประชากรสูงอายุขยายตัว และต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้น ทำให้การเข้ามาของโดรนเพื่อการเกษตรจากจีน ช่วยเร่งพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ของไทย

เฉินเทา ผู้อำนวยการ ฝ่ายขายระดับโลกของแผนกการเกษตร ดีเจไอ กล่าวว่าโดรนของดีเจไอเข้าสู่ตลาดไทยในปี 2016 และปรับตัวให้เข้ากับลักษณะการใช้งานในท้องถิ่น จนมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดจำหน่ายพุ่งขึ้นเท่าตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2019 และคาดว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกในอนาคต

“แผนกการเกษตรของดีเจไอ มีส่วนส่งเสริมการพัฒนาการสร้างความทันสมัยของกรเกษตรในจีนแล้ว เราจึงหวังผลักดันการประสบความสำเร็จนี้สู่ทั่วโลก เพื่อส่งต่อประสบการณ์และเทคโนโลยีของจีน” เฉินเทา กล่าว

ที่มา : China Xinhua News

ร่วมแสดงความคิดเห็น