ชาวเมียนมาร์ในไทย จุดเทียน วันชนเผ่าพื้นเมืองโลก

วันชนเผ่าพื้นเมืองโลก ชาวพม่าในประเทศไทยรวมตัวจัดกิจกรรม ปลอดปล่อยเมียนมาร์ และชาวต่างชาติ กว่า 300 คนจุดเทียนและชูสามนิ้ว วันที่ 9 ส.ค.เวลา 17.00 น.จัดกิจกรรม ปลดแอกชาติพันธุ์ ชำระประวัติศาสตร์บาดแผลเนื่องในวันชนเผ่าพื้นเมืองโลก ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2565 รายงานข่าว จากที่ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประกาศให้ทุกวันที่ 9 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันชนเผ่าพื้นเมืองโลก หรือวันชนเผ่าสากล (International Day of World’s Indigenous Peoples) นับตั้งแต่ ปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมา เพื่อเสริมสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับชนเผ่าหรือกลุ่มชาติพันธุ์และบทบาทของชุมชนชนเผ่าในการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม UNESCO และเพื่อเตือนใจว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่มีเอกลักษณ์วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของตนเองแต่กลับถูกผลักให้ไปอยู่ชายขอบ ได้รับสิทธิไม่เท่าเทียมกับคนส่วนใหญ่ของสังคม

มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า กะเบอะดิน ดืนแดนมหัศจรรย์ เผยแพร่กิจกรรม ปลดแอกชาติพันธุ์ ชำระประวัติศาสตร์บาดแผลเนื่องในวันชนเผ่าพื้นเมืองโลก กับการลงนามในปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองโดยรัฐบาลไทย จนถึงวันนี้กลุ่มชาติพันธุ์ทั่วประเทศกำลังตกเป็นเหยื่อของอคติทางชาติพันธุ์ ด้วยสถานการณ์ที่ร้อนแรงขึ้นภายหลังการรัฐประหาร ขณะนี้จำเป็นต้องพูดถึงปัญหาของชาติพันธุ์กันอย่าง “ตรงไปตรงมา” ไม่อ้อมค้อม

การผลักดันกฎหมายและนโยบายชาติพันธุ์อาจเป็นฐานขั้นแรก แต่จากการถูกกระทำมากว่า 5 ทศวรรษ เราต้องการมากกว่านโยบาย แต่หมายถึงความรับผิดชอบของทุกคน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิของชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง เชิญพบกับกิจกรรมของ “ชาติพันธุ์ปลดแอก”ทั้ง Performance Art / เวทีเสวนาปัญหาชาติพันธุ์ และประกาศเจตนารมณ์ปลดแอกชาติพันธุ์ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป

ส่วนกิจกรรมขอชาวเมียนมา หรือพม่าที่อยู่ในประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมปลอดปล่อนเมียนมาร์ ปลอดปล่อยอาเซียน ที่ลานข่วงประตูท่าแพ ค่ำวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว เริ่มเวลา 18.00-21.00 น. ผู้มาร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ชาวพม่า และยังมีมีชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมกิจกรรมจำนวนมากกว่า 300 คน มีการจัดเวทีปราศัยกล่าวถึงเหตุการณ์รัฐประหารในพม่า กล่าวถึงปัญหาของประชาชนชาวพม่าที่ล้มตายจากผลกระทบของกองทัพรัฐบาลพม่าฆ่าประชาชนให้อาเซียนได้ทราบปัญหาและให้อาเซียนได้มีบทบาทต่อต้านการรัฐประหารในประเทศพม่าด้วย มีการนำภาพเหตุการณ์ชาวบ้านถูกยิงมาจัดนิทรรศการ และก่อนที่จะแยกย้าย ได้นำเทียนคู่ธงชาติพม่าแล้วจุดเทียนพร้อมกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ เหตุการณ์ทั่วไปปกติไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น