67437

ปภ.แนะวิธีป้องกันฟ้าผ่า อันตรายที่มากับพายุฝนฟ้าคะนอง

ช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน จะมีสถิติการเกิดฟ้าผ่าสูง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และฟ้าผ่า เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ดังนี้ กรณีอยู่กลางแจ้ง กรณีอยู่ในอาคาร กรณีขับรถ ทั้งนี้ การเรียนรู้วิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าและเพิ่มความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

8 พฤษภาคม วันธาลัสซีเมียโลก (World Thalassemia Day)

วันที่ 8 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น “วันธาลัสซีเมียโลก (World Thalassemia Day)” เพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของโรคธาลัสซีเมียและผลกระทบของโรค และแสดงถึงความร่วมมือของชุมชนผู้ป่วยธาลัสซีเมียทั่วโลก สำหรับปี พ.ศ.2567 นี้ องค์กรธาลัสซีเมียนานาชาติ (Thalassaemia International Federation) ได้กำหนดหัวข้อของงานเป็น “Empowering Lives, Embracing Progress: Equitable and Accessible Thalassaemia Treatment for All.” เสริมคุณภาพชีวิต พัฒนาการเข้าถึงการรักษาแก่ผู้ป่วยธาลัสซีเมียทุกรายอย่างเท่าเทียม ❓โรคธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบินผิดปกติคืออะไรโรคธาลัสซีเมียเป็นโรคโลหิตจางทางพันธุกรรมที่เกิดจากการกลายพันธุ์บนยีนที่ควบคุมการสร้างโปรตีนโกลบินที่เป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำให้สร้างโปรตีนโกลบินทำได้ลดลงหรือไม่ได้เลย เกิดความไม่สมดุลของสายโกลบิน ส่งผลให้การสร้างเม็ดเลือดแดงไม่มีประสิทธิภาพ เม็ดเลือดแดงแตกง่าย ภาวะฮีโมโกลบินผิดปกติเกิดจากการกลายพันธุ์บนยีนที่ควบคุมการสร้างโปรตีนโกลบินเช่นเดียวกัน แต่ทำให้สายโกลบินที่สร้างได้มีโครงสร้างที่ผิดปกติไป และส่งผลต่อหน้าที่ของโกลบิน เช่น ทำให้เกิดฮีโมโกลบินที่สลายตัวง่ายทำให้เม็ดเลือดแดงแตก ทำให้ความสามารถในการจับออกซิเจนเปลี่ยนแปลง หรือทำให้โครงสร้างโกลบินผิดปกติร่วมกับมีปริมาณลดลง 🔹เหตุใดโรคธาลัสซีเมียจึงสำคัญสำหรับประชากรไทยโรคธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบินผิดปกติเป็นโรคโลหิตจางทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบในประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย นอกจากนี้พบในประชากรแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ ด้วย ประชากรไทยมียีนแฝงธาลัสซีเมียหรือที่เรียกว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียประมาณหนึ่งในสามของประชากร และมีผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียประมาณร้อยละ 1 […]

รายการสุขภาพดี กับหมอสวนดอก ตอน ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ

ปวดท้องแบบไหน.. เป็นไส้ติ่งอักเสบ 🤢 📍ขอเชิญติดตามรับชม “รายการสุขภาพดีกับหมอสวนดอก”วันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. โดย อ.นพ.เอกรินทร์ ศุภตระกูล อาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ ลำไส้ใหญ่และทวารหนักภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช. ติดตามรับชมได้ที่ ..Facebook สุขภาพดีกับหมอสวนดอก: https://cmu.to/39tjiYoutube Suandok Channel: https://cmu.to/y1TCV #ปวดท้อง #ไส้ติ่งอักเสบ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก #คุยกับหมอสวนดอก #MedCMUในมือคุณ #คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

“8 พฤษภาคม”1886 เปิดที่มา โคคา-โคล่า ขายครั้งแรก ไม่ใช่น้ำอัดลม

ย้อนกลับไปวันนี้ในอดีต คือ ที่ 8 พฤษภาคม 1886 คือวันที่ โคคา-โคล่า เครื่องดื่มโคล่าชื่อดัง ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก เรื่องราวเริ่มมาจาก สงครามกลางเมืองอเมริกา ภายหลังสงครามจบ ทหารผ่านศึกมากมายกลายเป็นคนที่ติดมอร์ฟีน (ซึ่งเป็นยาแก้ปวดอันสกัดมาจากฝิ่น โดยมันถูกคิดค้นขึ้นโดยเภสัชกรในรัฐจอร์เจียชื่อ “จอห์น เพมเบอร์ตัน” ซึ่งทำมันขึ้นเพื่อบรรเทาอาการติดมอร์ฟีนของตัวเอง ก่อนจะพบว่ารสชาติมันถูกปาก ก็เลยเอาไปวางขายมันในฐานะยาแก้ปวดหัวและแก้อาการหมดแรงอ่อนล้า ซึ่งแม้ในปีแรกๆ การขายจะเข้าขั้นขาดทุน แต่ต่อมาชื่อเสียงของเครื่องดื่มตัวนี้ โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นของขึ้นชื่อของเมืองในที่สุด และค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วโลกในที่สุด น่าเสียดายที่แม้ โคคา-โคล่าจะโด่งดังมากก็ตาม มันก็ไม่ได้ช่วยให้จอห์นเลิกมอร์ฟีนได้อย่างที่เขาหวัง และ จอห์น เพมเบอร์ตัน เองก็จากโลกนี้ไป โดยแทบไม่ทันได้เห็นความโด่งดังของ โคคา-โคล่า ด้วยซ้ำ แต่แม้ผู้คิดค้นจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม โคคา-โคล่า ก็ยังคงอยู่ไปอีกแสนนาน ในฐานะของหนึ่งในเครื่องดื่มที่โด่งดัง และขายดีที่สุดอันดับต้นๆ ของโลกไปนั่นเอง และ.ถ้าจะเจาะลึกถึงเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก โค้กรุ่นแรกสุดนั้นไม่ใช่น้ำอัดลมนะครับ แต่มันเป็นยาและมันมีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์อยู่ในนั้น เท่านี้ยังไม่พอ มันยังมีโคเคนผสมอยู่ด้วย และก็นำมันออกขายสู่สาธารณะครั้งแรกในปี 1880 (ตามขวดในรูป) ในฐานะที่มันเป็นยา ซึ่งวิธีกินก็ต้องเอาไปผสมกับโซดา ซึ่งในสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่กินแล้วสุขภาพดีเช่นกัน […]

งานเก็บเกี่ยว ‘เห็ด’ ในอินโดนีเซีย

ยอกยาการ์ตา, 5 พ.ค. (ซินหัว) — เกษตรกรอินโดนีเซียลุยเก็บเกี่ยว คัดแยก และบรรจุเห็ดสดใหม่หลากชนิดลงถุงที่ฐานเพาะปลูกเห็ดในเขตสเลมาน เมืองยอกยาการ์ตาของอินโดนีเซีย(บันทึกภาพวันที่ 4 พ.ค. 2024)

MED CMU ฟัง for health EP. 151 “ศูนย์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดฯ”

MED CMU ฟัง for health EP. 151 “ศูนย์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดครบวงจรแห่งเดียวในภูมิภาคด้วยสเต็มเซลล์ จากผู้อื่นที่ไม่ใช่พี่น้องในผู้ป่วยผู้ใหญ่ ” วิทยากรโดย ผศ.นพ.ปกป้อง พิริยคุณธร อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับฟังผ่านช่องทางYoutube : https://cmu.to/MyDGUSpotify : https://cmu.to/Y4BgoApple Podcasts : https://cmu.to/viCLvFacebook : https://cmu.to/MDEz4 #ศูนย์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด #MedCMU #MedCMUในมือคุณ #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สื่อสารองค์กรMedCMU

แคลเซียม กินอย่างไร ให้ได้ประโยชน์?

🔸แคลเซียม กินอย่างไร…ให้ได้ประโยชน์ ทำไมต้องทานแคลเซียม❓ เนื่องจากร่างกายเราไม่สามารถผลิตแคลเซียมได้ แต่เราจะได้รับแคลเซียมจากการรับประทานอาหารที่เราทานเข้าไป โดยจะมีประโยชน์ต่อหัวใจ กระดูก ระบบกล้ามเนื้อ และระบบเส้นประสาท หากได้รับแคลเซียมได้ไม่เพียงพอจะมีผลต่ออวัยวะต่างๆในร่างกายทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นปัญหาของการขาดแคลเซียม ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายไม่สูง เมื่อโตขึ้นเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน สำหรับผู้ใหญ่ในวัยทำงานที่กลัวเป็นโรคกระดูกพรุน จึงควรที่จะต้องรับประทานแคลเซียมเสริม เมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะมีแคลเซียมในร่างกายเพื่อเสริมกระดูกให้แข็งแรงยิ่งขึ้น •ปริมาณมวลกระดูกสะสมในแต่ละช่วงอายุช่วงปริมาณกระดูกที่แข็งแรงที่สุดคือช่วงประมาณอายุ 20 ตอนปลาย หรือช่วงอายุประมาณ 30 ปี หลังจากนั้นมวลกระดูกจะค่อยๆ ลดลง แต่จะขึ้นอยู่กับเพศ หากเป็นเพศหญิงจะมีอายุระหว่าง 40-50 ปี ซึ่งจะเป็นวัยเข้าสู่การหมดประจำเดือน เมื่อไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ระดับความหนาแน่นของกระดูกจะลดลงเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจากโครงสร้างตาข่ายของกระดูก ที่เป็นลักษณะของท่อนกระดูกที่แข็งแรง หากไม่ได้รับการเสริมแคลเซียมจะเกิดภาวะกระดูกพรุน ทำให้แตกหักได้ง่าย ดังนั้นเพศหญิงจะมีโอกาสกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า •ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 👦🏻ผู้ชายช่วงอายุ 19-50 ปี 1,000 มิลลิกรัมช่วงอายุ 51-70 ปี 1,000 มิลลิกรัมอายุมากกว่า 71 ปี 1,200 มิลลิกรัม 👩🏻ผู้หญิงช่วงอายุ 19-50 […]

เปิดแอร์ 27 องศา คู่กับพัดลม ประหยัดไฟจริงไหม?

หลายคนสงสัยว่า การเปิดแอร์ 27 องศา คู่กับพัดลม จะประหยัดไฟจริงหรือไม่? รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ว่า ทำไมวิธีนี้ถึงช่วยประหยัดไฟได้จริง หลักการคือ แอร์ที่ตั้งอุณหภูมิสูง เช่น 27 องศาเซลเซียส จะกินไฟน้อยกว่าการตั้งที่ 23-24 องศา เพราะคอมเพรซเซอร์จะทำงานน้อยลง แม้แอร์จะทำความเย็นห้องที่ 27 องศา แต่การเปิดพัดลมเป่าตัว จะช่วยให้เรารู้สึกเย็นสบายขึ้น เพราะกระแสลมช่วยพาความร้อนจากร่างกายออกไป พัดลมตั้งพื้น กินไฟน้อยกว่าแอร์มาก ใช้ไฟเพียงไม่กี่วัตต์ แม้จะเปิดเบอร์แรง หรือเปิดหลายตัวพร้อมกันก็ตาม สรุปคือ การปรับอุณหภูมิแอร์เป็น 27 องศา คู่กับเปิดพัดลมตั้งพื้น ช่วยประหยัดไฟได้จริง นอกจากนี้ ควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ ล้างแอร์เป็นประจำ เพื่อช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดไฟยิ่งขึ้น ที่มา:

“รายการสุขภาพดีกับหมอสวนดอก” ตอน อากาศร้อนระวัง! วูบ

📍ขอเชิญติดตามรับชม “รายการสุขภาพดีกับหมอสวนดอก”ตอน .. อากาศร้อน🥵 ระวัง! วูบ 😵 โดย อ.พญ.อังคณา นัดสาสารอาจารย์ประจำศูนย์โรคสมองภาคเหนือคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ติดตามรับชมได้ที่ ..Facebook สุขภาพดีกับหมอสวนดอก: https://www.facebook.com/share/v/CnvoUC1ntaXLJQm9/?mibextid=w8EBqMYoutube Suandok Channel: https://cmu.to/XS8oa #อากาศร้อน #ระวัง #วูบ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก #คุยกับหมอสวนดอก #MedCMUในมือคุณ #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ปภ.แนะหลักปฏิบัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้ – อพยพหนีไฟปลอดภัย

ฤดูร้อนเป็นช่วงที่เกิดเพลิงไหม้บ่อยครั้ง การเรียนรู้หลักปฏิบัติในการอพยพหนีไฟอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการสำลักควันไฟและความร้อนจากเปลวไฟที่เป็นสาเหตุของการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเพลิงไหม้ได้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ขอแนะข้อควรรู้และวิธีปฏิบัติในการอพยพหนีไฟ ดังนี้การปฏิบัติตนกรณีเกิดเพลิงไหม้ ตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก ประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น ทั้งนี้ ฤดูร้อนเป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดเพลิงไหม้สูง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงขอฝากให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังกิจกรรมที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ อาทิ เช่น ไม่จุดไฟเผาขยะบริเวณพงหญ้าแห้งหรือใกล้บ้านเรือน ดับไฟบุหรี่ให้สนิทก่อนทิ้ง อีกทั้งตรวจสอบและใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันการเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรได้

สธ.เตือน! ดื่มแอลกอฮอล์หน้าร้อน ระวังช็อก

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศร้อนอบอ้าวมาก โดยเฉพาะช่วงกลางวัน บางแห่งอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส เกินอุณหภูมิปกติของร่างกายซึ่งอยู่ที่ระดับ 37 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเช่นนี้ อาจส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วย เนื่องจากความร้อนทำให้หลอดเลือดขยายตัว จะมีผลต่อการหมุนเวียนของเลือดในร่างกาย เกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังและต่อมเหงื่อมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เนื่องจากน้ำจะเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ส่วนผู้ทำงานในที่ร่ม ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว วิธีสังเกตว่าร่างกายได้รับน้ำเหมาะสมเพียงพอหรือไม่นั้น สังเกตง่ายๆ จากสีของน้ำปัสสาวะ หากมีสีเหลืองจางๆ แสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอ แต่ถ้ามีสีเหลืองเข้มคล้ายน้ำชาและปัสสาวะออกน้อย แสดงว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะต้องดื่มน้ำให้มากๆ สำหรับเครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มในช่วงที่ร้อนอบอ้าว คือ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ สาโทอุ กระแช่ น้ำตาลเมา ไม่ว่าจะดื่มโดยใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ตาม เนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังขยายตัวมากขึ้น จะมีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงขึ้น และแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้นจะมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานต้องหนักเพื่อสูบฉีดเลือด อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ยิ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น […]

ปภ.เตือนเลี่ยง 6 พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ – ผิดกฎหมายจราจร

บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ทั้งความประมาท และการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอเตือน ผู้ขับขี่เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้1. กลับรถในที่ห้าม อาทิ บริเวณที่มีป้ายห้ามกลับรถ ถนนที่มีเส้นทึบสีเหลืองหรือสีขาว ที่คับขันบนสะพานระยะ 100 เมตร จากเชิงสะพาน เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรกลับรถบริเวณที่มีป้ายให้กลับรถหรือจุดกลับรถที่กำหนด พร้อมให้สัญญาณไฟทุกครั้งก่อนเข้าช่องทางกลับรถ หยุดรอในจุดกลับรถโดยไม่จอดล้ำช่องจราจรของรถทางตรง และกลับรถเมื่อรถในทางตรงอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย 2.ขับรถย้อนศร ผู้ขับขี่ในเส้นทางปกติอาจมองไม่เห็นหรือเห็นรถที่ขับสวนทางในระยะกระชั้นชิดทำให้เกิดอุบัติเหตุชนประสานงาหรือเฉี่ยวชน เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ขับควรใช้ช่องทางเดินรถในทิศทางตามที่เครื่องหมายจราจรกำกับไว้ 3.ไม่เปิดสัญญาณไฟเมื่อเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทาง ทำให้ผู้ที่ขับรถตามหลังมาไม่ทราบทิศทางการเดินรถ จึงไม่ชะลอความเร็วหรือให้ทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร ก่อนเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทาง รวมถึงมองเส้นทางให้รอบด้าน เมื่อรถอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย ค่อยเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทาง 4.ขับรถแทรกบริเวณทางแยกหรือทางขึ้นสะพาน ในช่วงการจราจรติดขัด ผู้ขับขี่มักขับรถแทรกรถคันอื่นในช่วงก่อนถึงทางแยกหรือทางขึ้นสะพาน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรขับรถไปตามช่องทางเดินรถ โดยไม่ขับแทรกรถคันอื่นในเขตห้ามแซง โดยเฉพาะในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางแยกและทางร่วม บริเวณทางขึ้นสะพานหรือทางชัน 5.ขับรถช้าในช่องทางขวา ทำให้ผู้ที่ขับรถเร็วต้องแซงในช่องทางซ้าย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำในช่องขวาหรือขับรถในช่องทางขวาตลอดเวลาโดยให้ใช้ช่องทางขวาเมื่อต้องขับแซง […]

ปภ.แนะรู้หลักอพยพหนีไฟ ลดเสี่ยงสำลักควัน ลดอันตรายจากไฟคลอก

ปภ.แนะรู้หลักอพยพหนีไฟ ลดเสี่ยงสำลักควัน ลดอันตรายจากไฟคลอก การสำลักควันไฟและความร้อนจากเปลวไฟเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุเพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ขอแนะข้อควรรู้และวิธีปฏิบัติในการอพยพหนีไฟ ดังนี้รู้ลักษณะควันไฟ – ลดเสี่ยงอันตราย– ควันไฟพุ่งออกมาจากช่องประตูและหน้าต่างอย่างรวดเร็ว แสดงว่า ต้นเพลิงอยู่ใกล้บริเวณนั้น– ควันสีดำและเคลื่อนที่เร็ว แสดงว่า อยู่ใกล้ต้นเพลิง– ควันสีจางและเคลื่อนที่ช้า ๆ แสดงว่า อยู่ไกลจากต้นเพลิง– ควันสีดำหนาแน่น อาจเกิด flashover หรือควันที่ลุกติดไฟกลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ทั้งนี้ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ระยะเวลา 1 นาที ไฟจะเริ่มกระจายไปทั่วห้อง ระยะเวลา 2 – 4 นาที ควันไฟและเปลวไฟ จะเริ่มกระจายเป็นวงกว้าง ระยะเวลา 5 นาที ควันไฟ ความร้อน และก๊าซพิษ จะทำให้ผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้เสียชีวิต ซึ่งระยะเวลาอพยพหนีไฟไหม้ที่ปลอดภัย จะอยู่ในช่วง 2 นาทีแรกนับตั้งแต่เกิดไฟไหม้รู้วิธีปฏิบัติอพยพหนีไฟปลอดภัย การเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนอย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมถึงมีสติเมื่อเกิดเพลิงไหม้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์เพลิงไหม้ได้

ตอบครบ! ครอบฟันคืออะไร ราคาแพงไหม มีกี่ประเภท เหมาะกับใคร

ปัญหาสุขภาพฟันส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียฟันนั้น มักจะก่อให้เกิดความลำบากในการพูดจา รับประทานอาหาร รวมถึงสูญเสียความมั่นใจไปด้วย ซึ่งการครอบฟันก็เป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาและฟื้นฟูสภาพฟันที่ได้รับความนิยมสูง เพราะสามารถตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของผู้ใช้บริการได้หลากหลาย เรามาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับครอบฟันในราคาไม่แพงกันดีกว่า ครอบฟันคืออะไร ? ครอบฟัน หรือที่เรียกกันว่า “วีเนียร์ (Veneers)” เป็นการทำครอบผิวฟันเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่าง สี และความสวยงามของฟันให้ดูดีขึ้น โดยกระบวนการทำครอบฟันจะมีการขัดเอาเนื้อฟันชั้นนอกบางส่วนออกไป แล้วจึงนำวัสดุที่ใช้ครอบฟันมาติดที่ผิวฟัน ซึ่งจะช่วยปรับแต่งรูปทรงให้เรียวสวย สีฟันขาวสดใส พร้อมทั้งปิดรอยรัาวหรือเคลือบเป็นฟันเทียม ครอบฟันราคาแพงไหม ? เรื่องของค่าใช้จ่ายในการทำครอบฟันนั้น ราคาจะแตกต่างกันออกไปตามประเภทของวัสดุที่ใช้ ยิ่งใช้วัสดุคุณภาพดีราคาก็จะยิ่งแพงขึ้น โดยหากเป็นครอบฟันแบบเรซินคอมโพสิท (Composite Veneers) ซึ่งถือว่ามีราคาที่ถูกที่สุด อยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาท/ซี่ แต่หากเป็นครอบฟันจากวัสดุเซรามิก จะมีราคาอยู่ที่ 15,000-30,000 บาท/ซี่ ครอบฟันราคาไม่แพงมีกี่ประเภท โดยทั่วไปแล้ว ครอบฟันที่มีราคาไม่แพงมากนัก มักจะเป็นครอบฟันจากวัสดุประเภทเรซิน อาทิ เรซินคอมโพสิท และครอบฟันเรซินอะครีลิก ซึ่งมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้นกว่าครอบฟันประเภทเซรามิก แต่ก็ยังคงมีราคาที่ไม่แพงนักการครอบฟันราคาไม่แพงช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง การครอบฟันราคาไม่แพงเหมาะสำหรับใคร ครอบฟันราคาไม่แพงมักจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการเพียงแค่การปรับปรุงบางส่วนของฟันเท่านั้น อาทิ การแก้ปัญหาฟันบิ่นเล็กน้อย ฟันเหลื่อมพอสังเกตได้ หรือการเปลี่ยนสีฟันให้ขาวสะอาดตามากขึ้น ซึ่งครอบฟันวัสดุเรซินถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีราคาไม่แพงมากนัก […]

ฝ้า กระ รักษาอย่างไรให้หาย?

ปัญหาเรื่อง กระ ฝ้า นับเป็นปัญหากวนใจทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ ที่มักจะพบกระ ฝ้า ขึ้นบนใบหน้า ทำให้ขาดความมั่นใจในการเปิดเผยใบหน้า ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และมักจะพบบ่อยในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หากรักษาไม่ถูกวิธีอาจจะส่งผลให้กระ ฝ้าเพิ่มมากขึ้นหรือสีเข้มกว่าเดิม จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน หลายคนอาจจะมีคำถามว่าส่วนไหนของร่างกายที่มักจะเกิด ฝ้า กระ ได้ง่าย คำตอบคือ สำหรับฝ้า บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ ส่วนกระสามารถพบได้บ่อยบริเวณโหนกแก้ม และดั้งจมูก 🔸ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?ฝ้าและกระเกิดจากเซลล์เม็ดสีในร่างกายของคนเรา ถูกปัจจัยต่างๆ กระตุ้น ส่งผลให้เซลล์เม็ดสีสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น และส่งผ่านเม็ดสีมายังบริเวณของผิวหนัง ทำให้เราเห็นสีผิวบริเวณดังกล่าวเข้มขึ้น นอกจากนี้สำหรับฝ้ายังมีเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่นๆ หลั่งสารใต้ผิวหนัง มากระตุ้นเม็ดสีให้สร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่มีเม็ดสีหรือที่เป็นฝ้า ดังนั้นในบางคนจะสังเกตเห็นว่าที่บริเวณเกิดฝ้ามีเส้นเลือดอยู่ร่วมด้วยเรียกว่า “ฝ้าเลือด” 🔸ฝ้าและกระ ต่างกันอย่างไรฝ้า จะมีลักษณะเม็ดสีเป็นปื้นๆ เรียบไปกับผิวหนัง มีทั้งสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลอมเทา ขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของฝ้าว่าอยู่ในชั้นไหนของผิวหนังกระ จะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ ขอบเขตชัดเจน กระจายอยู่เด่นที่บริเวณโหนกแก้ม ดั้งจมูก 🔸ปัจจัยที่ทำให้เกิด ฝ้า กระ […]

ปภ. แนะเตือนท่องเที่ยวทะเลในช่วงหน้าร้อนอย่างปลอดภัย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีท่องเที่ยวทะเลช่วงหน้าร้อนอย่างปลอดภัย ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง รวมถึงสวมเสื้อชูชีพขณะเล่นน้ำ ไม่ลงเล่นน้ำบริเวณที่มีระดับน้ำลึกหรือมีคลื่นสูง ห้ามประกอบกิจกรรมทางน้ำขณะหรือหลังจากฝนตกหนัก รวมทั้งระมัดระวังในการเล่นน้ำบริเวณที่มีเครื่องเล่นทางน้ำ สกู๊ตเตอร์ บานาน่าโบ๊ท เจ็ตสกี อีกทั้งไม่ควรแยกไปเล่นน้ำตามลำพังอย่างเด็ดขาด หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ในฤดูร้อนเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่นิยมไปท่องเที่ยวทะเล แต่หากขาดความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมทางน้ำ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงขอแนะข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวทะเล อย่างปลอดภัย ดังนี้ โดยเลือกแหล่งท่องเที่ยวทะเลที่มีสภาพแวดล้อมในการประกอบกิจกรรมปลอดภัยทางน้ำ เช็กสภาพอากาศของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล หากมีประกาศแจ้งเตือนคลื่นพายุลมแรง ฝนตกหนัก หรือทะเลมีคลื่นสูง ให้งดการเดินทางหรือเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมศึกษาข้อมูลสภาพแวดล้อมในพื้นที่ ช่วงเวลาที่เหมาะกับการลงเล่นน้ำที่ปลอดภัย ทั้งระดับความลึกของน้ำ ความแรงของกระแสน้ำ คลื่นใต้น้ำ (Rip Current) หรือสำรวจสัตว์ทะเลที่มีพิษ ถ้าหากมีให้หลีกเลี่ยง ในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงเลือกเล่นน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย และสวมเสื้อชูชีพขณะเล่นน้ำ ไม่เล่นบริเวณมีโขดหิน ที่มีป้ายหรือ ธงสัญลักษณ์เตือนอันตราย และหลีกเลี่ยงเล่นน้ำในขณะหรือหลังที่ฝนตก เพราะทะเลจะมีคลื่นสูง อีกทั้งไม่เล่นน้ำบริเวณที่มีเครื่องเล่นทางน้ำ อาทิ สกู๊ตเตอร์ เรือยาง เจ็ตสกี […]

วิธีดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน

พระอาทิตย์แข็งแรง ร้อน ๆ (สุขภาพ) จะไม่ดี ฤดูร้อนปีนี้ พุ่งทะยานกว่าทุกปี อาจแตะ 50 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว และในสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้ ต้องสังเกตอาการเสี่ยงเหล่านี้ เช่น ปวดศรีษะ เวียนศรีษะ สับสน มึนงง มีผื่นแดงตามผิวหนัง เบื่ออาหาร หรือ ปัสสาวะสีเข้ม เพื่อเฝ้าระวัง กรมอนามัย จึงมีคำแนะนำในการดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม สำหรับประชาชนทั่วไป ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ในระหว่างวัน โดยไม่ต้องรอให้กระหายควรสวมหมวก ใส่แว่นกันแดด เมื่อออกไปกลางแจ้งสวมเสื้อสีอ่อน หลวม มีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดีหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วงอากาศร้อนหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชา กาแฟสังเกตสีปัสสาวะ หากปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม-สีอมส้มเข้ม ควรดื่มน้ำทันทีสังเกตอาการของตนเองและกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดทันทีหากมีเหตุฉุกเฉิน ให้รับติดต่อสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือ โทรสายด่วน 1669 สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ ทารกและเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีภาวะอ้วน […]

ตรวจสุขภาพสิทธิประกันสังคมแบบใหม่ มีอะไรที่ต้องรู้ ?

🩺ตรวจสุขภาพสิทธิประกันสังคม#แบบใหม่ มีอะไรที่ต้องรู้ ?ตรวจฟรี !! ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 ทุกโรงพยาบาล สามารถใช้สิทธิตรวจสุขภาพประจำปีได้ “ไม่ต้องจ่ายเงิน” ❗️ที่ รพ.ลานนา และ รพ.ลานนา3จะมีรายการตรวจอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ ⬇️⬇️ Click Link อ่านเพิ่มเติม >>> https://bit.ly/3QllLdB 🪪 อย่าลืม ! แสดงบัตรประชนทุกครั้ง เพื่อขอรับสิทธิ์ตรวจสุขภาพประจำปี 🏥 ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนาเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น. 🏥 โรงพยาบาลลานนา3เปิดให้บริการวัน จันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น. สอบถามเพิ่มเติม : โทร.052-015999 , โทร. 052-134-727

1 157 158 159 160